ลูกศิษย์หลวงตามหาบัว บุกแบงก์ชาติค้านรวมบัญชี

วันพุธที่ 10 มีนาคม พ.ศ.2553

ลูก ศิษย์หลวงตามหาบัว รุดมาแบงก์ชาติ สอบถามธปท.เรื่องรวมบัญชี ระบุ เห็นใจรัฐบาลที่ต้องหาเงินแก้หนี้กองทุนฟื้นฟู แต่เชื่อว่า มีแนวทางที่ดีกว่ารวมบัญชี ยืนยันหากรัฐบาลดึงดันแก้กฎหมาย ประชาชนคัดค้านแน่

 

เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรดาศิษยานุศิษย์ของพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน นำโดยพระครูอรรถกิจนันทคุณ (พระอาจารย์นพดล นันทโน) เจ้าอาวาสวัดป่าดอยสบงา จ.กำแพงเพชร ในฐานะกรรมการมูลนิธิเสียงธรรมเพื่อประชาชน ของหลวงตามหาบัว ได้เดินทางมายังธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อสอบถามความชัดเจนในนโยบายการรวมบัญชีทุนสำรองทางการระหว่างประเทศ ของรัฐบาล กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย

 

ภายหลังการหารือประมาณ 1 ชั่วโมง พระครูอรรถกิจนันทคุณ กล่าวว่า หลวงตามหาบัวให้เดินทางมาเพื่อสอบถามแนวนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงการคลังที่ต้องการให้รวมบัญชีทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศ โดยแก้ไข พ.ร.บ.ธปท. และพ.ร.บ.เงินตรา เนื่องจากเราเป็นมิตรที่ดีกับธปท. และมีเงินบริจาคส่วนหนึ่งอยู่ในบัญชีทุนสำรองเงินตรา ดังนั้น อะไรที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ และประชาชน เป็นแนวทางที่เห็นว่า เราและธปท.จำเป็นต้องทำร่วมกัน โดยในส่วนของประชาชนนั้น การดูแลคลังหลวงในแบบที่ ธปท.ทำอยู่เป็นแนวทางที่เราต้องการอยู่แล้ว

 

ต่อจากนี้ ทางมูลนิธิเสียงธรรมฯ จะติดตามเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง และทำงานร่วมกัน ธปท. เพราะในส่วนหนึ่งเราก็เข้าใจว่า ในฐานะที่เป็นรัฐบาล เขาจำเป็นต้องหาทางแก้ไขหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟู และพัฒนาระบบสถาบันการเงิน แต่ในขณะนี้มีแนวทางอื่นไหมที่จะดำเนินการแก้ไขหนี้ โดยมองว่า ต้องมีแนวทางที่ดีกว่าการรวมบัญชีในการแก้ไขปัญหาหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ   เจ้าอาวาสวัดปาดอยสบงา กล่าว

 

พระครูออรถกิจนันทคุณ กล่าวต่อว่า เชื่อว่าหากรัฐบาลต้องการรวมบัญชีจริงๆ ก็จะต้องแก้ร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเป็นร่าง พ.ร.บ.ส่งเข้าไปให้รัฐสภาพิจารณา ซึ่งคนตัดสินใจคือ รัฐสภา อย่างไรก็ตาม หากมีการเสนอแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ธปท. และร่างพ.ร.บ.เงินตรา เราบอกได้เลยว่า จะคัดค้านการแก้ไข พ.ร.บ.ดังกล่าวแน่นอน เพราะไม่เห็นด้วยกับความคิดในการรวมบัญชี แต่ในขณะนี้ถือเป็นการขัดแย้งกันในแนวคิดเท่านั้น จะไม่มีความรุนแรง หรือเสี้ยมกันไปเสี้ยมกันมาอย่างแน่นอน เพราะประเทศชาติต้องกาความสามัคคคีและสมานฉันท์

 

ด้านนายอรรคบุษย์ ไกรฤกษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ได้เรียนในท่านตัวแทนของหลวงตามหาบังทราบว่า ในขณะนี้ ธปท.ยังไม่มีแนวนโยบายใดที่ชัดเจนถึงเรื่อการรวมบัญชี เนื่องจากสายตลาดการเงิน ซึ่งเป็นเจ้าของเรื่องยังไม่ได้รับคำสั่งหรือนโยบายใดๆ ในเรื่องนี้จากรัฐบาลหรือกระทรวงการคลังอย่างเป็นทางการ มีเพียงแนวคิดที่ออกมาผ่านทางสื่อเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หากมีกรณีคำสั่ง หรือข้อสรุปอะไรที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ธปท.จะต้องรายงานให้หลวงตามหาบัวทราบด้วยตนเองแน่นอน เพราะมีเงินบริจาคของท่านอยู่ในทุนสำรองทางการฯ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลวงตามหาบัวได้จัดโครงการผ้าป่าช่วยชาติ มาตั้งแต่ปี 2540 เพื่อรับบริจาคเงินตราต่างประเทศ และทองคำ เพื่อนำมาบริจาคให้กับธปท.เพื่อสบทบในทุนสำรองทางการระหว่างประเทศที่หมดไป จากวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 โดยที่ผ่านมา โครงการดังกล่าวได้บริจาคเงินตราต่างประเทศ และทองคำเข้าคลังหลวง หรือทุนสำรองทางการระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด มีเงินตราต่างประเทศบริจาคไว้ในทุนสำรองเงินตรา 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และทองคำ 12,000 กิโลกรัม

จากhttp://www.thairath.co.th/content/eco/69423