พระครูอรรถกิจ นันทคุณ เจ้าอาวาสวัดป่าดอยลับงา จ.กำแพงเพชร ในฐานะกรรมการมูลนิธิเสียงธรรมเพื่อประชาชน เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายอรรคบุษย์ ไกรฤกษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายช่วยงานบริหาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่า ลูกศิษย์หลวงตามหาบัวไม่เห็นด้วยกับนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี และคลังที่มีแนวคิดจะรวมบัญชีของ ธปท. ที่มีอยู่ 3 บัญชี คือ บัญชีทุนสำรองเงินตรา บัญชีสำรองพิเศษ และบัญชีผลประโยชน์ประจำปีมารวมเป็น 1 บัญชี เพื่อนำเงินในบัญชีไปชำระหนี้เงินต้นเพื่อชดใช้หนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน หรือเอฟไอดีเอฟ วงเงิน 1.3 ล้านล้านบาท

“ได้สอบถามกับ ธปท. ในฐานะเป็นผู้ดูแลบัญชีกับข่าวที่เกิดขึ้นว่ามีปัญหาหนักใจกับบ้านเมืองหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาหลวงตามหาบัวได้มอบทองฝากไว้ให้ธปท. ดูแลเพื่อประโยชน์ต่อประเทศ โดยที่มากันวันนี้เพราะต้องการความชัดเจน และยืนยันว่าจะรักษาคลังหลวง ซึ่งเป็นสถาบันไว้ให้ดีที่สุด และถ้า ธปท. มีแนวคิดอะไรควรจะนำเสนอต่อสาธารณชน และลูกศิษย์ของหลวงตามหาบัวจะคอยรับฟัง หากมีประเด็นที่ต้องตัดสินจะขอให้หลวงตามหาบัวเป็นผู้ตัดสินใจ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลจะออกนโยบายสั่งให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้”

ทั้งนี้หากมีการแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.เงินตราเพื่อให้การรวมบัญชีแล้วเสร็จ ลูกศิษย์หลวงตามหาบัวพร้อมที่จะรวมตัวกันคัดค้านกฎหมายและยึดหลักการทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ โดยเห็นว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติพร้อมสนับสนุน แต่การรวมบัญชีเพื่อแก้ปัญหาหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ เป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องน่าจะมีวิธีอื่นแก้ไขได้ดีกว่า และที่ผ่านมาหลวงตามหาบัวได้เทศน์ถึงสองกัณฑ์ว่า ควรที่จะรักษากฎหมายเดิมไว้

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า แนวคิดที่จะให้นำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของ ธปท. ที่จะนำ 3 บัญชีหลักมารวมเป็น 1 บัญชี เพื่อนำไปแก้ปัญหาภาระหนี้ของกองทุนฟื้นฟูฯนั้น ยืนยันว่ารัฐบาลยังไม่มีนโยบายที่จะนำแนวคิดดังกล่าวมาปรับใช้ เพื่อแก้ปัญหาภาระหนี้ของกองทุนฟื้นฟูฯ ที่มีกว่า 1.1 ล้านล้านบาท ซึ่งรัฐบาลต้องใช้เวลาในการหาแนวทางเพิ่มเติม ในการนำทุนสำรองระหว่างประเทศมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเนื่องจาก ธปท. ได้รายงานว่าขณะนี้ทุนสำรองระหว่างประเทศมีจำนวนที่สูงมากพอสมควร.

จากhttp://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=310&contentID=53026