"ศิษย์หลวงบัว"บุกธปท.ปกป้องทองคำ13ตัน-เงิน10ล้านดอลล์ หวั่นรัฐบาลรวบไปใช้หนี้หมดคลัง

วันที่ 08 มีนาคม พ.ศ. 2553 เวลา 20:29:46 น.  มติชนออนไลน์

ศิษย์หลวงตาบัวบุกธปท.ทวงความชัดเจนเรื่อง รวมบัญชีนำเงินบริจาคแก้ปัญหาหนี้ให้รัฐบาล เตรียมส่งทีมเข้ามาดูแลเงินเงินคงคลังร่วมด้วย "แบงก์ชาติ"ยันหากมีแนวทางนำเงินทุนสำรองมาใช้จะให้ส่งตัวแทนมาศึกษา

เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พระครูอรรถกิจ นันทคุณ เจ้าอาวาสวัดป่าดอยลับงา จ.กำแพงเพชร และกรรมการมูลนิธิเสียงธรรมเพื่อประชาชน นำคณะลูกศิษย์พระธรรมวิสุทธิมงคล (หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) ประกอบด้วยตัวแทนพระจากวัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี 2 รูป พระจากกรุงเทพฯ 1 รูป พระจาก จ.กำแพงเพชร 2 รูป และฆราวาสอีก 7 คน เข้าพบเจ้าหน้าที่ ธปท.เพื่อสอบถามความชัดเจนถึงแนวคิดของนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจ ที่เสนอให้รวมบัญชีของ ธปท.เพื่อแก้ปัญหาหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ทั้งนี้ในบัญชีดังกล่าวมีทองคำที่มาจากการรับบริจาคของหลวงตามหาบัวรวมอยู่ด้วย 

  

พระครูอรรถกิจกล่าวว่า ได้สอบถามถึงท่าทีของ ธปท.เกี่ยวกับนโยบายรัฐบาลที่จะรวมบัญชีทุนสำรอง ซึ่งเรื่องนี้หลวงตามหาบัวก็ต้องการรับทราบความชัดเจนเช่นกัน เพราะหากจะมีการนำเงินทุนสำรองมาใช้จริง คณะลูกศิษย์หลวงตามหาบัวก็จะคัดค้านการแก้กฎหมาย เพราะคิดว่าการแก้ปัญหาหนี้กองทุนฟื้นฟูฯที่รัฐบาลรับภาระดอกเบี้ยปีละ 5-6 หมื่นล้านบาทนั้น น่าจะมีแนวทางอื่นที่ดีกว่า จากนี้คณะหลวงตามหาบัวจะเข้าร่วมกับ ธปท.ดูแลเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่เป็นเงินคงคลังของประเทศอย่างใกล้ชิดมากขึ้น

  

"ที่ฟังจากทางเจ้าหน้าที่แบงก์ชาติก็ไม่ได้ลงอะไรในรายละเอียดแต่อย่างใด แต่ที่เรามาก็เพื่อทำความชัดเจนกันว่าเราจะทำงานด้วยกันเพื่อรักษาคลังหลวงไว้ให้ดีที่สุด โดยที่เป็นความพอใจของประชาชนจริงๆ ที่สำคัญแบงก์ชาติไม่ได้เป็นคนทำอะไรเพื่อที่ให้มันยุ่งขึ้นมาเอง แต่ฝ่ายนโยบายรัฐ ซึ่งโดยหน้าที่ก็ต้องคิดว่าอะไรที่เป็นการแก้ปัญหาบ้านเมือง และรัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบด้วย เราก็เข้าใจกัน แบงก์ชาติก็เข้าใจ ว่าอะไรที่จะช่วยแก้ปัญหาของบ้านเมืองได้เราก็จะช่วยกันแก้ปัญหา" พระครูอรรถกิจกล่าว

  

พระครูอรรถกิจกล่าวว่า สิ่งที่รัฐบาลคิดก็มีทั้งที่ตรงใจและไม่ตรงใจ แม้แต่รองนายกรัฐมนตรี กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็ยังมีบางคำตอบที่ตรงใจกัน และมีบางคำตอบที่ไม่ถูกใจกัน อย่างไรก็ตามคงจะต้องไปตกลงกันถึงวิธีการจะทำงานร่วมกัน แต่หากเป็นไปแนวทางการรวมบัญชี โดยการแก้ พ.ร.บ.เงินตราฯ ก็พร้อมจะคัดค้านให้ถึงที่สุด

  

"เท่าที่คุยกับแบงก์ชาติก็มองในแง่ของประโยชน์สูงสุด และแบงก์ชาติยังไม่มีรัฐบาลเข้ามากดดันใดๆ ทั้งสิ้น ก็สบายใจด้วยกันได้ทุกฝ่าย สามารถทำงานร่วมกันได้  เพราะต่างฝ่ายต่างไม่มีแรงกดดัน" พระครูอรรถกิจกล่าว

  

นายอรรคบุษย์ ไกรฤกษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายช่วยงานบริหาร ธปท. ผู้แทนผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า การดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ใช่มีเพียงกระทรวงการคลัง หรือ ธปท.ตัดสินเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของนโยบายรัฐบาลและการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยคณะลูกศิษย์หลวงตามหาบัวก็แสดงเจตนารมณ์ว่า หากมีการศึกษาแนวทางนำเงินทุนสำรองมาใช้จริง ก็จะขอส่งตัวแทนมาร่วมศึกษาด้วย โดยขณะนี้มีทองคำที่หลวงตามหาบัวบริจาคจำนวน 13 ตัน และเงินสดจำนวน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

  

"กระทรวงการคลังก็ยังไม่ได้หารือกับแบงก์ชาติอย่างเป็นทางการถึงแนวทางการรวมบัญชี เพื่อแก้ปัญหาหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ และการหารือกับพระครูอรรถกิจ พร้อมคณะลูกศิษย์หลวงตามหาบัวก็ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดถึงการดำเนินการตามแนวทางของรัฐบาล แต่จะรายงานเรื่องดังกล่าวให้ผู้ว่าการแบงก์ชาติรับทราบ แต่คงตอบไม่ได้ว่าควรจะรวมบัญชีหรือไม่ เพราะต้องศึกษาให้รอบคอบ และต้องหารือกับหลวงตามหาบัวก่อน"  นายอรรคบุษย์กล่าว

  

นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงแนวทางการรวมบัญชี ธปท. ว่า เป็นเรื่องที่ต้องหารือกับ ธปท. เพราะถือว่าเป็นหนี้ก้อนใหญ่ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ปัจจุบันคงค้างที่ 1.1 ล้านล้านบาท ถือว่าเป็นเรื่องที่คาราคาซังมานาน และเป็นภาระต่องบประมาณ ขณะที่ ธปท.จะมีทุนสำรองทางการระหว่างประเทศเพิ่มสูงมากขึ้น จึงน่าจะมีกลไกที่จะใช้เงินทุนสำรองทางการระหว่างประเทศให้คุ้มค่าได้หรือไม่ โดยไม่ต้องกระโดดข้ามไปที่การรวมบัญชีก็ได้

จากhttp://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1268054377&grpid=&catid=05