ลืมรหัสผ่าน?
  • Narrow screen resolution
  • Wide screen resolution
  • Auto width resolution
  • Increase font size
  • Decrease font size
  • Default font size
  • default color
  • red color
  • green color
Home arrow เหตุการณ์สำคัญ arrow งานปิดโครงการช่วยชาติ และ พิธีมอบทองคำและดอลลาร์เข้าคลังหลวง ครั้งที่ ๑๒
งานปิดโครงการช่วยชาติ และ พิธีมอบทองคำและดอลลาร์เข้าคลังหลวง ครั้งที่ ๑๒ PDF พิมพ์ อีเมล์
prajoveuhove.gif

                         

             

 พระธรรมเทศนาหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เนื่องในวโรกาสสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เสด็จพร้อมด้วย ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีมอบทองคำและดอลลาร์เข้าคลังหลวง ครั้งที่ ๑๒ และปิดโครงการช่วยชาติ เมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗ ความมุ่งหมายของชาติไทย ความมุ่งหมายขององค์ศาสดา

(ก่อนฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาถึงในพิธี พิธีกรได้สัมภาษณ์ ท่านผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล และดร.วีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นลำดับ)
(ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ให้สัมภาษณ์)


พิธีกรหญิง อยากจะขอกราบเรียนท่านได้ให้ความกระจ่างนะคะ กับประชาชนชาวไทยคะ ซึ่งได้สละเงินทอง ด้วยหยาดเหงื่อแรงงานเข้ามาสู่คลังหลวงครั้งนี้นะคะ ได้ทองคำ ๑๐ ตัน เงินดอลลาร์อีก ๑๐ ล้านดอลลาร์ ซึ่งเคยทราบนะคะ ว่าเงินจำนวนนี้เมื่อเทียบกับเงินในคลังหลวงที่จะมีเหลือมากน้อย แต่เงินจำนวนนี้เรียกว่าเป็นก้อนนิดเดียวนะคะ แต่อยากจะเรียนถามว่า เงินก้อนนี้นะคะ จากน้ำใจของชาวไทยทั้งชาติ มีส่วนในการสร้างเสถียรภาพทางการเงินให้กับชาติอย่างไรคะ ?


ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ต้องขอย้อนเรื่องหน่อยนะครับ เงินนี้ ท่านอาจารย์ได้นำเข้ามาไว้ในคลังหลวงตั้งแต่ปลายปี ๒๕๔๑ แล้วหลังจากนั้น คนที่ยังไม่เข้าใจว่า ท่านอาจารย์เอาเงินก้อนนี้มาไว้ในคลังหลวงทำไมนะครับ จนปี พ.ศ.๒๕๔๓ ก็เกิดกรณีที่จะมีการรวมบัญชี บัญชีของฝ่ายการธนาคาร กับบัญชีฝ่ายออกบัตร
ซึ่งการรวมบัญชีนั้น ถ้าว่าไป ถ้าปล่อยให้เกิดขึ้น ก็จะอนุญาตให้มีการนำเงิน ซึ่งตอนนั้นมีอยู่ไม่มากนัก ไปชำระหนี้ ไอเอ็มเอฟ ก่อนกำหนด หากเป็นเช่นนั้นจริง ณ วันนั้นเราเป็นหนี้ ไอเอ็มเอฟ อยู่สูงทีเดียวนะครับ หากมีการชำระก่อนกำหนด เงินในคลังหลวงจะลดลงต่ำอย่างมาก ซึ่งจะเป็นอันตราย
ตอน ๒๕๔๓ นั้นเอง ผมซึ่งก็เป็นลูกศิษย์คนหนึ่งของท่านอาจารย์ ถึงได้ถึงบางอ้อว่า ท่านอาจารย์ได้นำเงินเข้ามาไว้ในคลังหลวง ตั้งแต่ ๒๕๔๑ เพื่ออะไร สาเหตุก็คือ เพื่อท่านจะได้มีข้ออ้างว่าเงินนี้ ประชาชนได้นำมาไว้ในคลังหลวง จะมารวมบัญชีอะไรกันง่าย ๆ นี่ไม่ได้หรอก เพราะถ้าหากรวมบัญชีแล้ว เกิดนำไปชำระเสียหายขึ้น ประเทศชาติก็จะล่มจมอีกครั้งหนึ่ง
นี่คือ สาเหตุว่าเงินก้อนน้อยนิด นำไปไว้ในอ่างใบใหญ่ เพื่ออะไร เพื่อที่ท่านจะได้มีข้ออ้างในการที่จะคัดค้านการรวมบัญชี เพราะหากมีการรวมบัญชีแล้ว ก็จะมีการชำระเงินออกไปล่วงหน้า ซึ่งในปี ๒๕๔๓ นั้นจะเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ไม่เหมือนตอน ๒๕๔๖ ซึ่งตอนนั้น เรามีเงินสำรองที่ได้กำไรจากการค้า จากบริการมากพอแล้ว เราถึงชำระก่อนกำหนดได้ สาเหตุก็มีแค่นั้นนะครับ


พิธีกรหญิง ขอบพระคุณค่ะ สรุปแล้ว ถึงแม้เงินจะน้อยนะคะ แต่ว่าได้กันเงินก้อนใหญ่ไม่ให้รั่วไหลออกมา ทำให้มีเสียงบอกว่า ถ้าเงินรั่วออกมาตอนนั้น ชาติเราจะล่มเหมือนอาเจนติน่าเชียวหรือคะ ?


ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ไม่มีใครบอกได้นะครับว่าจะเป็นอย่างนั้นหรือไม่ แต่ที่แน่ชัดก็คือว่า ถ้ามีการรวมบัญชีสำเร็จตอนนั้น จะมีการชำระหนี้ ไอเอ็มเอฟ ทั้งก้อน ซึ่งถ้าชำระทั้งก้อนแล้ว จำนวนเงินที่เหลือก็ยังพอมีเหลือบ้าง แต่ไม่แข็งแรงพอที่จะดึงดูดให้เงินไหลเข้าอีก ไม่แข็งแรงพอที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนหรือผู้ให้กู้ต่างประเทศว่าเงินสำรองเรามั่นคง ไม่มีใครตอบได้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ค่อนข้างจะล่อแหลมครับ


พิธีกรชาย ท่านผู้ว่าครับ นอกจากเสถียรภาพทางการเงินแล้วนะครับ ในแง่ของจิตใจนี้มีผลไหมครับ ?


ม.ร.ว.ปรีดิยาธร อันที่สุดคือ เสถียรภาพทางการเงิน นะครับ ถ้าเสถียรภาพทางการเงินดี เงินไม่ไหลออก มีแต่ไหลเข้า.จิตใจมาเอง ข้อสำคัญที่สุดก็ คือ ข้อนั้นนะครับ


พิธีกรหญิง ค่ะ ได้เคยไปฟังท่านกล่าว รู้สึกจะตอนรับผ้าป่าช่วยชาติที่จันทบุรีนะคะ ถ้าจำไม่ผิดนะคะ ว่าเงินจำนวนน้อยนิด นอกจะอุดไม่ให้เงินในคลังหลวงรั่วแล้ว เป็นเหมือนน้ำมนต์ด้วยใช่ไหมคะ ที่จะดึงดูดเงินตราต่างประเทศเข้ามาในคลังหลวงนะค่ะ ?


ม.ร.ว.ปรีดิยาธร อันนั้นก็เป็นความเชื่อของคนเรานะครับ ผมก็เป็นคนพุทธคนหนึ่ง เชื่อว่า ท่านอาจารย์เอาเงินมาใส่ในโอ่งใหญ่ ก็เหมือนเอาน้ำมนต์มาใส่ในโอ่งนั้น นอกจากเป็นข้ออ้างในการป้องกันไม่ให้น้ำไหลออกแล้ว ก็เชื่อว่า ด้วยความเป็นมงคลอันสูงสุด คงจะเป็นแรงดึงดูดให้มีเงินไหลเข้าประเทศมากขึ้น ซึ่งก็เป็นข้อเท็จจริงว่า ตั้งแต่ปลายปี ๒๕๔๔ เป็นต้นมาถึงปัจจุบันนี้ เงินไหลเข้าประเทศทุกเดือนไม่ขาดเลยครับ


พิธีกรหญิง พอจะบอกได้ไหมคะว่า ตอนนี้สถานะทางการเงินของเรา คือเงินในคลังหลวงตอนนี้ มีความมั่นคงขนาดไหน มีปริมาณเท่าไรคะ


ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ยอดรวมทั้งหมดก็ ๔๓,๐๐๐ ล้านเหรียญ ก็สูงที่สุดที่ประเทศไทยเคยมีมาแล้ว ตอนนี้ก็เรียกว่ามั่นคงเพียงพอมากแล้วนะครับ ก็พอที่จะรองรับการพัฒนาประเทศต่อไปได้นะครับ


พิธีกรชาย กราบขอบพระคุณท่านผู้ว่าครับ


พิธีกรหญิง กราบขอบพระคุณค่ะ พอท่านพูดถึงคลังหลวงนะคะ ดิฉันมีข้อมูลที่ทางบรรพบุรุษเราบอกว่า ทรัพย์สินของหลวง ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ก็เรียกว่าเป็นไปตามคำกล่าวของบรรพบุรุษจริง ๆ นะคะ
ความเป็นมาของคลังหลวงนะคะ มีหลักฐานปรากฏในกฎหมายสมัยอยุธยา แล้วก็กฎหมายอาญาหลวง อาญาราษฎร์ ในบทที่ ๒ นะคะ ว่า
ผู้ใดบังอาจลักพระราชทรัพย์ในพระคลังหลวง นอกพระคลังหลวง ให้ลงโทษ ๘ สถาน
แล้วก็มีสำนวนในกฎหมายบอกว่า
แก้วฤาจะรู้หมอง ทองฤาจะรู้เศร้า พระราชทรัพย์ของพระผู้เป็นเจ้าจิรกาล นานช้าเท่าไรบ่สูญ
แล้วก็เงินคลังหลวงนี่นะคะ มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ ร.ศ. ๑๒๗ นะคะ ในรัชกาลของสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนะคะ พระองค์ได้ประทานเงินมาเป็นทุนของชาติไว้ ๑๒ ล้านบาทค่ะ
  (ดร.วีรพงษ์ รามางกูร ให้สัมภาษณ์)


พิธีกรชาย ทราบว่าอาจารย์วีรพงษ์เป็นลูกศิษย์คนหนึ่งของหลวงตามหาบัว ไม่ทราบว่าเข้าไปเป็นลูกศิษย์ของท่านเมื่อไรครับ


ดร.วีรพงษ์ ผมได้ไปถวายตัวขอเป็นลูกศิษย์ท่านมาหลายปีแล้วครับ ที่สวนแสงธรรม


พิธีกรชาย เห็นอาจารย์บอกว่า หลวงตามหาบัวแม้ว่าไม่ได้เรียนเศรษฐศาสตร์แต่เป็นคนที่รู้เรื่องเศรษฐกิจดีมากครับ


ดร.วีรพงษ์ อันนี้เป็นเรื่องที่แปลกมากครับ เมื่อท่านได้เปิดโครงการผ้าป่าช่วยชาติเพื่อเอาทองคำและเงินดอลลาร์เข้าที่คลังหลวง ไม่มีใครเข้าใจ เพราะเหตุว่า คำว่าคลังหลวงไม่มีในกฎหมาย แต่เป็นปริศนาธรรม ผมได้ไปนมัสการท่านที่สวนแสงธรรม ขณะนั้นประเทศของเราอยู่ในวิกฤตอย่างมาก ผู้คนหดหู่หมดกำลังจิตกำลังใจ หลวงตาได้ลุกขึ้นมาระดมศรัทธาของพี่น้องประชาชนชาวไทย เพื่อให้สละทองคำและดอลลาร์ ก็มีปัญหาว่ารัฐบาลในขณะนั้นก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าคลังหลวงหมายถึงอะไร ผมได้ไปกราบนมัสการท่านและได้ออกมาชี้แจงให้ประชาชนให้เข้าใจว่า ทุนสำรองระหว่างประเทศของเรานั้นแบ่งเป็นสามส่วน ส่วนแรกซึ่งเป็นส่วนใหญ่เรียกว่าทุนสำรองเงินตรา ส่วนที่สองเป็นบัญชีทุนสำรองพิเศษ ซึ่งเป็นของธนาคารแห่งประเทศไทย และส่วนที่สามเป็นทุนของทุนรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยน
ทุนสำรองเงินตรานี้ตามกฎหมายแล้วเป็นของแผ่นดิน ไม่ใช่ของใคร ไม่ใช่ของธนาคารแห่งประเทศไทย แม้แต่ธนาคารแห่งประเทศไทยก็เอาไปใช้ไม่ได้ ในขณะนั้นทองคำและดอลลาร์ที่ประชาชนได้บริจาคมาก็ไม่ทราบว่าจะไปเข้าบัญชีใด ในที่สุดก็ตกลงกันว่าบัญชีคลังหลวง ที่หลวงตาท่านกรุณารวบรวมจิตศรัทธาของพี่น้องประชาชนชาวไทยให้ช่วยชาติ คือทุนสำรองเงินตรา และได้มีการนำทองคำและดอลลาร์ต่าง ๆ เข้าไปไว้ในทุนสำรองเงินตรา
แม้ว่าทองคำและดอลลาร์ที่นำเข้าไปในทุนสำรองเงินตราจะไม่มาก แต่จะทำให้ทุนสำรองเงินตราของเราเป็นของที่ศักดิ์สิทธิ์ ต่อไปจะไม่มีผู้ใดเอาไปใช้ได้ จะอยู่เป็นทุนสำรองของประเทศชาติของเราตลอดไป ประเทศชาติเราผ่านวิกฤตการณ์ต่างๆ มาได้ก็เพราะทุนสำรองเงินตราที่มั่นคง ที่ไม่ใช่ของผู้ใด ไม่มีผู้ใดเอาไปใช้ได้ และก็แปลก หลังจากที่ได้นำทองคำและเงินดอลลาร์ที่ประชาชนทั่วประเทศบริจาคเข้าทุนสำรองเงินตราแล้ว ปรากฏว่าเราสามารถใช้หนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศได้ หนี้ของเอกชนได้รับการชดใช้ หนี้ของภาครัฐบาลที่เป็นเงินตราต่างประเทศได้รับการชดใช้
แต่ในขณะเดียวกันทุนสำรองระหว่างประเทศของเรากลับเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลก เมื่อ ๖ ปีก่อนนั้นเรามองไม่เห็นทางว่าเราจะมีปัญญาใช้หนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หนี้ของภาครัฐบาล หนี้ของภาคเอกชน โดยไม่ใช่ทุนสำรองได้อย่างไร แต่หลังจากทองคำได้เข้าไปแล้ว หนี้ต่างๆ ได้รับการชดใช้โดยทุนสำรองไม่ได้ร่อยหรอเลย แต่กลับเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ


พิธีกรชาย ขอบพระคุณครับอาจารย์ มีคนบอกผมว่าตอนที่อาจารย์เข้าไปถวายตัวเป็นลูกศิษย์หลวงตามหาบัวอาจารย์แอบไป เสร็จแล้วอยู่ๆ หลวงตามหาบัวบอกว่าไปเรียกคนคนนั้นมาซิ ทั้งๆ ที่ไม่รู้จักอาจารย์มาก่อน จริงหรือเปล่าครับอาจารย์


ดร.วีรพงษ์ จริงครับ ผมไปรวมอยู่กับประชาชนที่สวนแสงธรรม มีคนนับพันผมก็อยู่ท้ายๆ หลวงตาท่านยกกาแฟเย็นขึ้น ท่านก็ชี้มาที่ผมบอกว่าให้ไปให้คนคนนั้น และถ้วยกาแฟก็ส่งต่อมาถึงผม และท่านเรียกให้ผมเข้าไปใกล้ๆ ให้เข้าไปพบ และได้อธิบายในเรื่องของบัญชีทุนสำรองของประเทศทั้งสามบัญชี


พิธีกรชาย ขอบพระคุณอาจารย์ครับ


พิธีกรหญิง (ดร.ดาราวรรณ)
หลวงตามหาบัวนอกจากท่านจะเป็นผู้นำในการระดมทองคำและดอลลาร์ช่วยชาติเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับคลังหลวง ท่านได้ทำพินัยกรรมไว้แล้ว เมื่อท่านละสังขารขอให้บรรดาทรัพย์สิน ในขณะที่ท่านมรณภาพ ทรัพย์ที่ได้จากการมาบริจาคในงานศพของท่าน ส่วนที่เป็นทองคำให้หลอมเป็นทองคำแท่ง และส่วนที่เป็นเงินให้ไปซื้อทองคำแท่ง ทองคำทั้งหมดเข้าคลังหลวงทั้งหมดเพื่อที่จะเป็นทุนสำรองของประเทศไทยเท่านั้น ท่านระบุเลยว่าห้ามบุคคลหรือ คณะบุคคลใดนำไปใช้เพื่อการอื่น นอกจากจะให้เป็นทุนสำรองของประเทศไทยเท่านั้น นี่คือมรดก นอกจากมรดกธรรมแล้ว มรดกทางทรัพย์สมบัติท่านก็ฝากไว้ให้ลูกหลาน


(ลำดับต่อมา หลวงตาเมตตาให้คุณทองก้อนขึ้นไปนั่งใกล้ท่านพร้อมด้วยพิธีกรช่อง ๑๑ เพื่ออ่านแถลงการณ์ข้อมูลต่าง ๆ ของโครงการช่วยชาติ)
หลวงตา อันนี้เข้าทีวีมันเป็นอะไร (หมายถึงไมโครโฟน)


พิธีกร หมายความว่าอัดในทีวีเลย


หลวงตา อัดในทีวีมันยิ่งดี คุณทองก้อนเป็นหัวใจของคนทั้งชาติ ควรจะเอานี้ออกเลย หลวงตาเป็นคนสั่งเอง เอาเลย (ผู้ชมปรบมือ) มีเท่าไรออกเลย


พิธีกรช่อง ๑๑ ข้อมูลต่างๆ ของโครงการช่วยชาติของหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ผ่านทางประชาสัมพันธ์ของโครงการ คือคุณทองก้อน วงศ์สมุทร กราบเรียนเชิญค่ะคุณทองก้อน


คุณทองก้อน ขอพระราชทานกราบทูลใต้ฝ่าพระบาทฯ ข้าพระพุทธเจ้า นายทองก้อน วงศ์สมุทร กรรมการประชาสัมพันธ์ โครงการช่วยชาติ โดย หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ขอน้อมเกล้าฯ รับพระดำรัสให้ข้าพระพุทธเจ้าเป็นผู้แถลงข้อมูลโครงการช่วยชาติ โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ข้าพระพุทธเจ้า สำนึกในพระกรุณาธิคุณ เป็นล้นพ้น หาที่สุดมิได้
ประวัติศาสตร์ได้จารึกไว้ว่า เมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ร.ศ. ๑๒๗ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่พสกนิกรชาวสยาม ทรงตรากฎหมายกำหนดให้กระทรวงพระคลังมหาสมบัติจัดตั้งทุนสำรองส่วนหนึ่ง สำหรับรักษาอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างเงินตราสยามกับเงินตราต่างประเทศไว้ให้ยืนที่มั่นคง ไม่ให้ปะปนกับเงินอื่นในท้องพระคลัง ในชั้นต้นทุนสำรองส่วนนี้พระราชทานจากเงินคงพระคลังมาตั้งไว้ ๑๒ ล้านบาท กาลเวลาผ่านไปกฎหมายได้พัฒนาเป็นลำดับ มีบทกำหนดเพิ่มเติม ให้ทองคำและเงินตราต่างประเทศสกุลแข็ง เป็นสินทรัพย์ทุนสำรองด้วย
พูดได้เต็มปากว่าเงินบาทไทยมีค่าก็เพราะมีสินทรัพย์หนุนหลังอยู่ หากไม่มีสินทรัพย์ดังกล่าวหนุนไว้ ธนบัตรไทยก็จะเป็นเพียงกระดาษเปื้อนหมึกธรรมดาๆ จะออกแบบพิมพ์สอดสีสันลวดลายสวยงามเพียงใดก็ไม่มีค่า สินทรัพย์ดังกล่าวได้รับพระราชทานมาจากล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ และบรรพบุรุษของเราได้สะสมเพิ่มเติมตลอดมา ณ เวลานี้ มียอดสินทรัพย์ไม่ต่ำว่า ๑.๑ ล้านล้านบาท อยู่ในความดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย
ครั้นปลายปี พ.ศ. ๒๕๔๐ พระหลวงตาผู้ชรารูปหนึ่ง จำพรรษาอยู่ที่กุฏิหลังน้อยกลางป่าเพียงลำพังแต่รูปเดียว ดำรงสมณเพศ ด้วยผ้ากาสาวพัสตร์ เพียง ๓ ผืน และอัฏฐบริขาร ขณะนั้นสังขารอาพาธ ถ่ายวันละ ๗-๘ ครั้ง จนถึงต้องเกาะราวระเบียงกุฏิ พยุงสังขารเข้าออกห้องสุขาด้วยกำลังแรงที่เหลืออยู่ของตนเอง ไม่ยอมให้สังขารเป็นภาระแก่ผู้ใด บางครั้งเมื่อเดินจากกุฏิไปยังศาลาเพื่อฉันจังหัน ระยะทางเพียงไม่กี่สิบเมตร ต้องหลบเข้าราวป่าข้างทางเพื่อบรรเทาทุกข์ของธาตุขันธ์ เพราะการถ่ายไม่หยุด ฉันยาใดก็ไม่สามารถยับยั้งขันธ์ที่ชำรุดร่วงโรยนั้นไว้ได้ หลวงตาได้ขอให้หมู่คณะและศิษย์สร้างเมรุขึ้นไว้ที่หน้าวัด เพื่อที่จะใช้จัดการกับสังขารอันผุพังของท่านอย่างเรียบง่าย แต่เหตุใดพระหลวงตารูปนี้จึงตายไม่ได้
ในเวลาเดียวกันนั้น แผ่นดินไทยอันเป็นที่ประดิษฐานพระบวรพุทธศาสนา ประสบความคับขัน ชีวิตของประชาชนถูกบีบคั้นทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ความล่มสลายคืบคลานเข้าสู่ครัวเรือน อย่างน่าหวาดวิตก ความเดือดร้อนได้แพร่ขยายไปทั่ว จิตใจของประชาชนขาดที่พึ่ง ไฟที่ลุกท่วมหัวใจของชาวไทย เริ่มแพร่ขยายลุกลามออกจากหัวอก เป็นไฟที่ลุกท่วมแผ่นดินได้ในไม่ช้า หากไม่ตัดไฟเสียแต่ต้นลม เหตุการณ์นี้หามีผู้ใดรู้เห็นได้ นอกจากพระญาณหยั่งรู้ตามแนวทางพระบรมศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
หลวงตาได้พิจารณาแล้วว่ามีเพียงพระศาสนาเท่านั้นที่จะเป็นสรณะ และดับไฟที่ลุกท่วมหัวใจชาวไทยได้ หลวงตาจึงได้ตัดสินใจว่า หากพระพุทธศาสนาและหลักธรรมที่หลวงตาได้มรรคได้ผล จะสามารถกู้ชาติกู้แผ่นดินให้กลับคืนสู่ความร่มเย็นเป็นสุข เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธศาสนาให้เจริญสืบไป จะขอฉันยารักษาธาตุขันธ์อีกครั้งเดียว ถ้าไม่สามารถรักษาธาตุขันธ์ไว้ได้ ก็จะปล่อยวางให้เป็นไปตามกรรมของโลกต่อไป
เมื่อทุเลาความอาพาธของธาตุขันธ์ไว้ได้ ตามฐานานุรูปของท่าน หลวงตาจึงได้พยุงสังขารของท่านออกจากป่า พร้อมผ้ากาสาวพัสตร์ ๓ ผืน กับย่ามใบน้อย ในย่ามมีเพียงถุงพลาสติกหูหิ้วเก่าๆ ใบเล็ก บรรจุคำหมาก ๔-๕ คำ ไว้ขบฉัน ไม่มีอาวุธสิ่งใดเลยนอกจากหัวใจที่เจิดจ้า ด้วยความบริสุทธิ์แห่งธรรมธาตุที่ครองไว้เต็มดวงจิต กับความมุ่งมั่นนำธรรมของพระบรมศาสดาปลุกให้จิตใจของประชาชนตื่นขึ้น ด้วยเมตตาธรรมและสามัคคีธรรมกู้ชาติบ้านเมือง ให้พ้นจากพิษภัยโดยพลัน ก่อนที่จะสายเกินไป
ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุฤดูร้อนปี ๒๕๔๑ ผสมกับความเร่าร้อนในหัวอกของประชาชนที่ถูกแผดเผาจากพิษภัยของวิกฤตเศรษฐกิจ ความล่มสลายของสถาบันการเงิน ประเทศไทยติดหนี้ติดสินพะรุงพะรังทั้งชาติ ใต้ฝ่าพระบาทฯได้เสด็จเป็นองค์ประธานเปิดโครงการช่วยชาติ โดยหลวงตามหาบัวเมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๔๑ ต่อมา เมื่อวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๔๑ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ได้ทรงบริจาคพระราชทรัพย์เข้าโครงการช่วยชาติ เมื่อเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมหลวงตามหาบัว ซึ่งในขณะนั้นสังขารอันชำรุดของหลวงตาอยู่ในสภาพที่เพิ่งทุเลาจากอาพาธ เนื่องจากอุบัติเหตุรถพลิกคว่ำ ขณะนำสิ่งของไปมอบให้โรงพยาบาลต่าง ๆ หลวงตาผอมจนกระดูกและเส้นเอ็นปูดโปน แขนขวาที่กระดูกเดาะถูกสะพายไว้ด้วยผ้า หัวไหล่ขวาที่บวมเป่งสีดำคล้ำ หลวงตาได้เริ่มโครงการช่วยชาติในสภาพของสังขารเช่นนี้
การทำประโยชน์ให้แผ่นดินแรกเริ่มย่อมมิใช่เรื่องง่าย และการยืนหยัดกระทำให้ถึงที่สุดยังเป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่า หากต้องการให้บรรลุวัตถุประสงค์ ต้องทุ่มเทชีวิตจิตใจ และสัจจะเพื่อให้การนั้นปรากฎเป็นจริง จนบัดนี้ได้เวลา ๖ ปีแล้ว ด้วยลมหายใจอันแผ่วเบาและความผุพังของธาตุขันธ์ เป้าหมายมาถึงพร้อมกับวันเวลาที่สูญสิ้นออกไป หลวงตาได้แสดงพระธรรมเทศนาไว้ประโยคหนึ่งว่า ดวงตะวันขึ้นสู่ฟ้า เร็วหรือช้าก็อัสดง
ชีวิตวัยกว่า ๙๐ ปี หลวงตาได้ตรากตรำแสดงพระธรรมเทศนากว่า ๕๘๐ แห่ง เป็นพระธรรมเทศนาไม่น้อยกว่าหนึ่งพันแปดร้อยกัณฑ์ เพื่อขวนขวาย รวบรวม บรรดาเงินดอลลาร์และทองคำ เข้าเพิ่มพูนทุนสำรองที่มีมาแต่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ ด้วยความมุ่งมั่นว่า ก่อนที่หลวงตาจะหลับตาลาสังสารวัฏ จะนำทองคำบริสุทธิ์เข้าคลังหลวงเพื่อประโยชน์ของชนชาวไทยและหน่อเนื้อเชื้อไขของเราที่จะจุติบนผืนแผ่นดินไทยนี้ ให้ได้ไม่น้อยกว่า ๑๐ ตัน และเงินดอลลาร์ไม่น้อยกว่า ๑๐ ล้านเหรียญสหรัฐ
บรรดาดอลลาร์ จำนวน ๑๐,๒๑๔,๖๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ และทองคำบริสุทธิ์ ๙๙.๙๙% จำนวน ๑๐ ตัน ๓๑๒.๕ กิโลกรัม ส่วนหนึ่งได้มาจากการนำเงินบาทที่ได้รับบริจาคจำนวนกว่า ๒,๐๐๐ ล้านบาทจัดซื้อด้วย แล้วมอบให้เป็นสมบัติของคนไทยทั้งชาติครบสมบูรณ์ในวันนี้ ตกผลึกมาจากน้ำพัก น้ำแรง และน้ำใจของคนไทยทั้งชาติ ที่มีจิตใจเมตตา และรู้คุณของแผ่นดินตามหลักธรรม ที่สื่อด้วยเสียงซึ่งเปล่งจากหัวอกของหลวงตาเพื่อมุ่งยกชาติให้พ้นภัยด้วยพระพุทธศาสนา
ส่วนหนึ่งของบรรดาเงินดอลลาร์บางฉบับได้มาจากแม่ใหญ่หญิงชราชาวนา เธอแกะดอลลาร์มาจากกรอบที่ติดฝาบ้านไว้นานปี ดอลลาร์ฉบับนั้นได้มาจากลูกชาย ที่จากลูกจากเมีย จากพ่อจากแม่ไปอาบเหงื่อต่างน้ำ บนแผ่นดินต่างบ้านต่างเมือง มอบให้แม่ใหญ่ จึงใส่กรอบไว้ มันเป็นสิ่งมีค่าของครอบครัวเป็นเครื่องเตือนใจให้ระลึกถึงน้ำพักน้ำแรงของลูกชาย แม่ใหญ่ท่านนี้เกิดกุศลจิต จึงสละดอลลาร์ฉบับนี้เป็นทาน เข้าร่วมโครงการช่วยชาติ 
ส่วนบรรดาทองคำ ที่ปรากฏเป็นทองคำแท่งบริสุทธิ์ ๙๙.๙๙% จำนวน ๑๐ ตัน ๓๑๒.๕ กิโลกรัม ส่วนใหญ่ได้มาจากการหล่อหลอมทองรูปพรรณ ที่ประชาชนมีจิตศรัทธาบริจาค นำไปหลอมให้เป็นไปตามมาตรฐานในการใช้เป็นสินทรัพย์ทุนสำรอง ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีค่า เป็นของรักของหวงของผู้ที่ได้เป็นเจ้าของ แต่เมื่อได้ยินได้ฟังคำว่า เพื่อชาติ จากเสียงที่เปล่งจากหัวอกของหลวงตามีคุณค่ายิ่ง เหนือกว่าความรัก ความหวง
นอกเหนือจากทองคำที่ใต้ฝ่าพระบาทฯทรงบริจาคหลายครั้ง ยังมีสร้อยคอทองคำ เส้นน้อยสายหนึ่ง สุภาพสตรีผู้บริจาคเปิดเผยว่า เป็นสายสร้อยทองคำที่คุณทวดของเธอรับขวัญเธอ เมื่อวันที่เธอถือกำเนิดบนผืนแผ่นดินไทย เธอเก็บรักษาไว้อย่างทะนุถนอม เพื่อเป็นสื่อสัมผัสถึงความรักของบุพการีที่มีต่อเธอ มานานกว่า ๕๐ ปี เธอได้นำมาบริจาคเข้าร่วมโครงการช่วยชาติ ร่วมกับพ่อแม่พี่น้องผู้รักชาติ บัดนี้ได้หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันกับทองคำทั้งปวงที่ส่งมอบเข้าคลังหลวงด้วยแล้ว
ความจริงที่บังเกิดขึ้นในขณะที่ดำเนินการหลอมทองรูปพรรณคือ ทองรูปพรรณทั้งหลายจะค่อยๆ ยุบตัวลงทีละน้อย ทีละน้อยจนเป็นเนื้อเดียวกัน ขณะที่ยุบตัวลง ทองเหล่านั้นมีกลิ่น กลิ่นระเหยขึ้นมาจากเตาหลอม กลิ่นนั้นเป็นกลิ่นแป้งร่ำ น้ำหอม กลิ่นเหงื่อไคล กลิ่นอายตัวของผู้ที่เคยสวมใส่ มันเป็นกลิ่นหอมที่สุดบนแผ่นดินไทย และเมื่อละลายตัวเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน ทองคำเหล่านั้นมีลักษณะเป็นน้ำข้นๆ และมีสีแดงเข้ม ข้นและเข้มดังเลือดของคนไทยทั้งชาติ
ทองคำที่หลวงตามหาบัวได้เมตตารวบรวมมาเพื่อนำเข้าคลังหลวงแต่ละครั้ง จึงมิใช่ทองคำธรรมดา แต่เป็นทองคำที่ทุกอณูของมวลสาร มีพลังแห่งความรักชาติ และมีอานุภาพของพระพุทธศาสนา พระบารมีของพระมหากษัตริย์เจ้า ผสมผสานเกาะกุมยึดเหนี่ยวร่วมกันอยู่ในเนื้อทองคำเหล่านี้ด้วย พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าวิวัฒนไชย ผู้เป็นเสมือนองค์บุพการีของธนาคารแห่งประเทศไทย พระองค์ท่านเป็นเอกในด้านการเงินของประเทศ ทรงกล่าวข้อความสำคัญไว้ว่า การบูรณะบ้านเมืองให้กลับคืนสู่ปกติ เพื่อนำมาซึ่งความมั่นคงสมบูรณ์ของชาติต่อไปนั้น จำต้องอาศัยเสถียรภาพแห่งค่าของเงินเป็นหลัก หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งเงินบาทจะต้องมีค่า เรียกได้ว่า ยืนที่มั่นคงการค้าขายและธุรกิจทั้งปวง จึงจะมีหลักดำเนินไปได้ด้วยดี การปกครองของบ้านเมืองก็จะเป็นผลดีไปด้วย
บัดนี้ คลังหลวงที่หลวงตาได้เมตตาพารักษาและรวบรวม ทองคำและดอลลาร์ เพิ่มเติมสินทรัพย์ในคลังหลวงให้เพิ่มพูนขึ้น เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งที่หล่อเลี้ยงลมหายใจ และอวัยวะทางเศรษฐกิจทางการเงิน ให้ค่อยๆ พลิกคืนฟื้นตัวมาได้ จนใช้หนี้ ไอ เอ็ม เอฟ ได้ครบถ้วนก่อนกำหนด ด้วยคำอุทานว่าเหลือเชื่อ บรรดาสินทรัพย์เหล่านี้ แม้มีค่าเท่าใดเป็นเพียงค่าที่โลกสมมุติ แต่พระธรรมและน้ำใจของพระ อีกทั้งน้ำใจของคนทั้งชาติมีค่าแท้จริง และมีค่ายิ่งกว่าตัววัตถุ
วโรกาสอันเป็นมหามงคลนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยใต้ฝ่าพระบาทฯ เป็นองค์ประธานในพิธีมอบทองคำและดอลลาร์ ในการปิดโครงการช่วยชาติในวันนี้ ประชาชนคนไทยทั้งชาติ ขอส่งมอบทองคำบริสุทธิ์จำนวน ๑๐ ตัน ๓๑๒.๕ กิโลกรัม และเงินดอลลาร์ครบ จำนวน ๑๐,๒๑๔,๖๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นมูลค่า ๕,๗๒๑,๓๗๙,๔๐๐ บาท เป็นการบูชาพระพุทธศาสนาและบูชาคุณแผ่นดินนี้ อันเป็นแผ่นดินที่คนไทยอยู่สุขเย็นใจ ตามฐานานุรูปตลอดมา
หากแผ่นดินที่เราทั้งหลายวางเท้า ยืน เดิน ทอดกายนั่ง และลงนอนทุกค่ำคืนอยู่นี้ไม่เป็นที่ตั้งของชาติไทย ไม่มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ ไม่มีพระมหากษัตริย์ที่ทรงทศพิธราชธรรม วันนี้คงไม่เกิดการนี้ขึ้น
หลวงตามหาบัวตั้งปณิธานและได้ปฏิบัติตามปณิธานว่าเวลามีชีวิตอยู่นี้ เราจะทำความดี ให้โลกทั้งหลายได้เป็นคติตัวอย่างอันดีงาม และทำด้วยความเมตตาสงสารต่อโลก เพราะหลังจากนี้แล้ว เราตายแล้วเราจะไม่กลับมาเกิดในโลกนี้อีกต่อไป เป็นตลอดอนันตกาล
ขอผลานิสงส์ ที่หลวงตามหาบัวเมตตาพาพี่น้องประชาชนชาวไทยกู้ชาติไทยด้วยหลักธรรมตามพระพุทธศาสนาในครานี้ จงเป็นผลให้แผ่นดินไทยและประชาชนชาวไทย มีความร่มเย็นเป็นสุข ขออำนาจแห่งพระพุทธานุภาพ พระธรรมานุภาพ พระสังฆานุภาพ อานุภาพแห่งพระแก้วมรกต พระสยามเทวาธิราช พระหลักเมือง พระเสื้อเมือง พระทรงเมือง พระกาฬชัยศรี และบูรพมหากษัตราธิราช ที่ปกปักรักษาแผ่นดินไทยและชาวไทย จงแผ่พลานุภาพพิทักษ์รักษา สินทรัพย์อันเป็นสื่อแทนน้ำใจพระและน้ำใจของคนไทยทั้งชาติเหล่านี้ ให้ดำรงอยู่เป็นสมบัติของชาติบังเกิดประโยชน์งอกงามไพบูลย์แก่ชาติไทย และชาวไทย นิจนิรันดร์
ควรมิควรแล้วแต่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
หลวงตา ขณะที่ผ่านมานี้ คุณทองก้อนได้เรียนให้พี่น้องทั้งหลายทราบโดยทั่วกันแล้วในการที่ได้อุตส่าห์พยายาม และคุณทองก้อนเองเป็นผู้รองตัดคอรองชีวิตของชาติไทยทั้งชาติ เป็นผู้กล้าทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อชาติไทยและศาสนาของเรา ได้อ่านให้พี่น้องทั้งหลายทราบโดยทั่วกันแล้ว นี้คือหลักความจริงที่ได้ดำเนินมา เราทั้งหลายก็ได้เห็นชัดเจนแล้ววันนี้นะ สำหรับหลวงตาวันนี้จะไม่พูดอะไรนักแหละ จะพูดเพียงเท่านี้ คือเปิดโอกาสให้คุณทองก้อนซึ่งเป็นผู้ช่ำชองในเรื่องกิจการงานทั้งหลาย ซึ่งได้รองรับชาติไทยของเรามานาน เป็นผู้พูดและแถลงเรื่องข่าวทั้งหลายให้พี่น้องทั้งหลายทราบโดยทั่วกันผ่านมาตะกี้นี้
ขอท่านทั้งหลายจงรับคำชี้แจง หรือโอวาทธรรมของพระพุทธเจ้าซึ่งแทรกมาในนี้นำไปปฏิบัติ ระลึกถึงตนเองและรักตนเอง คือรักชาติรักศาสนาด้วยความเป็นผู้ปฏิบัติ ดีปฏิบัติชอบ ระลึกถึงธรรมติดแนบอยู่กับใจเสมอ ความชั่วทั้งหลายจะไม่มีโอกาสเข้ามารังควานได้อย่างง่ายดาย เพราะธรรมของพระพุทธเจ้าเคยปราบความชั่วช้าลามกอันเป็นภัยต่อสัตว์โลกมาเป็นประจำนานแสนนานกี่กัปกี่กัลป์ เฉพาะปัจจุบันนี้ก็คือพระพุทธเจ้าสมณโคดมของเรา ได้ทรงปราบมารตัวมหาภัยอย่างยิ่งในพระองค์เองจนเรียบราบลงไปแล้ว ได้นำธรรมะนั้นมาสั่งสอนสัตว์โลกตลอดมา
เวลานี้ก็จนกระทั่ง ๒๕๐๐ ปีไม่ได้จืดจาง สดๆ ร้อนๆ คือธรรมอันเป็นมหามงคลแก่โลก ชำระความชั่วช้าลามกทั้งหลายได้ตลอดมา จึงขอให้พี่น้องชาวพุทธทั้งหลายที่นับถือกราบไหว้พระพุทธเจ้าเป็นขวัญตาขวัญใจตลอดมาตั้งแต่ปู่ ย่า ตา ยาย ได้นำไปประพฤติปฏิบัติ วันคืนปีเดือนล่วงไปจิตใจกับธรรมอย่าให้ห่างเหินจากกัน ให้ติดแนบกันไปโดยลำดับลำดา เราจะได้มีความเจริญรุ่งเรืองภายในจิตใจของเรา หน้าที่การงานของบุคคลผู้มีธรรมในใจย่อมไม่ค่อยผิดพลาดลืมตัวง่ายๆ เพราะธรรมสะกิดอยู่ภายในจิตใจ เราทั้งหลายก็เป็นผู้มีความสงบร่มเย็น จิตใจก็ไม่ดีดไม่ดิ้นจนเกินเหตุเกินผล แล้วการประพฤติหรือปฏิบัติหน้าที่การงานเป็นเนื้อเป็นหนัง เป็นชิ้นเป็นอันโดยเหตุผลของอรรถธรรมเป็นเครื่องสะกิดหรือบอกเตือนอยู่เสมอ
วันนี้หลวงตาจะไม่พูดอะไรมากนักเพราะได้พูดมาเป็นเวลา ๖ ปีแล้ว ขอความเห็นใจจากพี่น้องทั้งหลายเพื่อชาติไทยและศาสนาไทยของเรา ให้ต่างท่านต่างได้อุ้มชูขึ้นมาด้วยการประพฤติปฏิบัติตัวเป็นคนดี นี่เป็นความมุ่งหมายของชาติไทยด้วย เป็นความมุ่งหมายขององค์ศาสดาเราด้วย วันนี้ก็ขอพูดเพียงเท่านี้แหละ ขอความสวัสดีจงมีแก่บรรดาพี่น้องทั้งหลายโดยทั่วกันเทอญ

           (ลำดับต่อมาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินมาถึงในพิธี ดร.สุรเกียรติ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวถวายรายงานแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ)


ดร.สุรเกียรติ ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้านายสุรเกียรติ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงานปิดโครงการช่วยชาติ โดยหลวงตา มหาบัว ญาณสัมปันโน คณะกรรมการจัดงาน คณะศิษยานุศิษย์ของหลวงตา ประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่า ตลอดจนผู้ที่ได้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอยู่ ณ ที่นี้ ต่างมีความปีติยินดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้ทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินมาพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เพื่อมาทรงเป็นประธานในพิธีปิดโครงการช่วยชาติในวันนี้
โอกาสนี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระราชวโรกาสกราบบังคมทูลทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท เกี่ยวกับความเป็นมาของพิธีปิดโครงการช่วยชาติโดยสังเขปดังนี้ ย้อนหลังไปเมื่อวันหนึ่งในเดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๐ ในขณะที่หลวงตาได้เดินทางไปแจกสิ่งของให้กับโรงพยาบาลในท้องถิ่นกันดาร อันเป็นกิจวัตรที่หลวงตาได้ปฏิบัติอยู่เป็นเนืองนิตย์ ในวันนั้นจึงได้ทราบว่าโรงพยาบาลมีหนี้สินเป็นอันมาก จนไม่สามารถจะชำระหนี้ให้แก่บริษัทหรือร้านค้าที่ซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ได้ ทั้งที่มิได้ก่อหนี้สินใดๆ ขึ้น หากแต่เป็นหนี้อันเกิดจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่เปลี่ยนไปเอง ซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตทางการเงินของประเทศ
ทำให้หลวงตารู้สึกสลดใจเป็นอันมาก ท่านจึงดำริที่จะช่วยชาติช่วยแผ่นดิน โดยทุ่มเทน้อมนำพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศให้ร่วมกันบริจาคเงิน เพื่อช่วยชาติบ้านเมืองของเรา โครงการช่วยชาติจึงได้เกิดขึ้นตั้งแต่บัดนั้น โดยได้รับเงินบริจาคประเดิมรายแรกเมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๑ เป็นเงินจำนวน ๒,๕๐๐ เหรียญสหรัฐ เป็นปฐมฤกษ์ และเริ่มดำเนินการอย่างจริงจังตั้งแต่วันที่ ๑๒ เมษายนปีเดียวกันเป็นต้นมา ซึ่งถือเป็นวันเปิดโครงการ โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ได้ทรงพระกรุณาเสด็จไปเป็นองค์ประธานเปิดโครงการ
หลังจากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทก็ได้เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ไปยังสำนักสงฆ์สวนแสงธรรม เพื่อถวายพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ร่วมในโครงการช่วยชาติกับหลวงตา นับว่าเป็นมหาอุดมมงคลอันยิ่งใหญ่ต่อโครงการช่วยชาติของหลวงตา ด้วยแรงศรัทธาจากทุกสารทิศต่อหลวงตามหาบัว และด้วยความรักชาติรักแผ่นดินของชาวไทยทุกหมู่เหล่า เป็นเหตุให้ทองคำ เงินเหรียญสหรัฐ เงินตราสกุลต่างประเทศ รวมทั้งเงินบาท หลั่งไหลเข้าสู่บัญชีช่วยชาติอย่างต่อเนื่องมิได้ขาดสาย และหลวงตาก็ได้รวบรวมส่งมอบให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อนำเข้าบัญชีฝ่ายออกบัตร หรือคลังหลวง ตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงบัดนี้นับได้ ๑๑ ครั้ง
ในครั้งที่ ๑๑ เมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๖ รวมเป็นสินทรัพย์ที่มอบเข้าคลังหลวงไปแล้วทั้งสิ้น ประกอบด้วยทองคำแท่งบริสุทธิ์ ๙๙.๙๙% จำนวน ๙,๑๒๕ กิโลกรัม หรือประมาณ ๙.๑ ตัน และเงินจำนวน ๘,๒๑๐,๐๐๐ เหรียญสหรัฐ ณ เวลานี้ทองคำและเงินเหรียญสหรัฐได้เพิ่มจำนวนจนบรรลุถึงเป้าหมายที่หลวงตาตั้งใจไว้แล้ว คือทองคำจำนวน ๑๐ ตัน และเงินเหรียญสหรัฐจำนวน ๑๐ ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะมีการมอบเข้าคลังหลวงในวันนี้เป็นครั้งที่ ๑๒ ก่อนปิดโครงการ ซึ่งมีทองคำในวันนี้จำนวน ๙๕ แท่ง คิดเป็นน้ำหนัก ๑,๑๘๗.๕ กิโลกรัม และเงินจำนวน ๒,๐๐๔,๖๐๐ เหรียญสหรัฐ โดยมีส่วนเกินจากเป้าหมายเป็นทองคำจำนวน ๓๑๒.๕ กิโลกรัม และเงินอีกจำนวน ๒๑๔,๖๐๐ เหรียญสหรัฐ
ระยะเวลา ๖ ปีของการดำเนินโครงการเป็นเวลาไม่น้อยสำหรับหลวงตาผู้ซึ่งชราภาพมาก แต่ก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นอดทนเต็มกำลัง ถ้าคิดจำนวนระยะทางที่หลวงตาเดินทางไปแสดงธรรมตามที่ต่าง ๆ เพื่อรับเงินผ้าป่านั้นนับได้เป็นแสนกิโลเมตร ด้วยแรงเมตตาที่หลวงตาท่านเห็นว่า เราแต่ละคนต่างอยู่ได้เพราะมีประเทศชาติ แต่จะไม่มี ใครอยู่ได้ถ้าชาติล่มจม หลวงตามหาบัวได้กำหนดไว้ว่า ในวันปิดโครงการนี้ถือเป็นวันที่ชาวไทยทุกคนถือเป็นโอกาสในการทำบุญถวายเป็นพระราชกุศลแด่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ในวโรกาสเฉลิมพระชนม์พรรษา ๖ รอบ ๗๒ พระชันษา
ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจ เพื่อความมั่นคงของชาติ เพื่อความสุขของประชาชน และเพื่อเทิดทูนพระพุทธศาสนาเคียงคู่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯมาโดยตลอด โดยไม่ทรงนึกถึงความเหน็ดเหนื่อยพระวรกายแต่อย่างใด และเป็นคุณูปการต่อแผ่นดินไทย และเป็นบุญของพสกนิกรไทยยิ่งนักที่มีองค์สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ที่ทรงรักและทุ่มเทให้กับชาติไทยเป็นเวลาช้านานต่อเนื่องมาตลอด ซึ่งเป็นเป้าหมายเดียวกันกับที่หลวงตามหาบัวได้นำพี่น้องคนไทยเสียสละเพื่อชาติบ้านเมืองในยามวิกฤตด้วย
วันนี้วันจันทร์ที่ ๑๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗ นับว่าเป็นมหามงคลฤกษ์ ซึ่งจะได้จารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของชาติไทย ว่าบัดนี้สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยได้เข้าสู่ภาวะปกติ รัฐบาลภายใต้การนำของฯพณฯ พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ชำระหนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอ เอ็ม เอฟ เมื่อเดือนกรกฎาคม ๒๕๔๖ ทั้งหมดแล้ว ซึ่งเป็นการชำระหนี้ล่วงหน้าเป็นเวลาถึง ๒ ปี หลวงตามหาบัวจึงพิจารณาแล้วเห็นว่า ถึงเวลาสมควรที่จะยุติโครงการดังกล่าว โดยให้จัดพิธีปิดโครงการช่วยชาติขึ้น พร้อมทั้งจะมอบทองคำกับเงินเหรียญสหรัฐที่ได้รับบริจาคเพิ่มเติมไว้เข้าสู่ท้องพระคลังหลวง
การมอบทองคำและเงินเหรียญสหรัฐในวันนี้ ย่อมเป็นประวัติศาสตร์ของชาติอีกวาระหนึ่ง ดังที่ปรากฏแก่สายตาแล้วว่า ขณะนี้สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์สานกันไว้ด้วยความสมานฉันท์ พระมหากรุณาธิคุณที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเสด็จมาเป็นองค์ประธานในงานนี้ ตลอดจนศรัทธาของปวงชนทั้งหลายย่อมเป็นเสมือนฟ้าและดินที่หล่อหลอมเข้าด้วยกันภายใต้ร่มเงาแห่งศาสนา จึงนับเป็นมหาอุดมมงคล เป็นบุญตาบุญใจยิ่งนัก สมดังคำกล่าวของหลวงตาว่า อำนาจแห่งความรักชาติ ความสามัคคีแห่งความเสียสละของพี่น้องชาวไทยมารวมตัวกันแล้วยกได้ทั้งประเทศ
ในวาระอันเป็นมหามงคลที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้ทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นประธานในพิธีปิดโครงการช่วยชาติ โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนในวันนี้ ข้าพระพุทธเจ้าในนามของประชาชนชาวไทย และทุกท่านที่มาชุมนุมอยู่ ณ ที่นี้ รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ และขอพระราชทานพระราชวโรกาสน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขอให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงพระเจริญยิ่งยืนนาน มีพระพลานามัยแข็งแรง เป็นมิ่งขวัญและที่พึ่งของปวงข้าพระพุทธเจ้าสืบไปชั่วกาลนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

           (ลำดับต่อมา ฯพณฯ พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถวายรายงานแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ)
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ
ข้าพระพุทธเจ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในนามคณะรัฐบาลและปวงชนชาวไทยขอพระราชทานพระราชานุญาตประกาศเกียรติคุณพระธรรมวิสุทธิมงคล แห่งวัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี ผู้ริเริ่มและดำเนินโครงการช่วยชาติจนประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายในวันนี้ พระธรรมวิสุทธิ มงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เป็นชาวบ้านตาดโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๔๕๖ ได้อุปสมบทที่วัดโยธานิมิตร เมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๔๗๗ และอยู่ในบวรพุทธศาสนาตลอดมาจวบจนปัจจุบัน
พระธรรมวิสุทธิมงคลเป็นพระเถระที่เปี่ยมด้วยคุณธรรม จริยธรรม เป็นที่ประจักษ์แก่บุคคลทั่วไป เมื่อท่านได้ทราบถึงวิกฤตทางการเงินของชาติ จึงได้ดำเนินโครงการช่วยชาติขึ้น ด้วยการชักชวนพี่น้องประชาชนผู้มีจิตศรัทธา ให้ช่วยกันเสียสละและแบ่งปันทรัพย์ เพื่อรวบรวมเข้าสู่คลังหลวงเป็นสมบัติของชาติบ้านเมือง ตลอดระยะเวลา ๖ ปีที่ผ่านมานี้ พระธรรมวิสุทธิมงคลได้เสียสละแรงกายแรงใจ และเดินทางไปทุกหนแห่งที่มีผู้มีจิตศรัทธาจะร่วมในโครงการ ทั้งยังได้ขอให้คนไทยร่วมใจและสามัคคีปรองดองเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อช่วยประเทศให้พ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ
การมอบทองคำและเงินตราสกุลต่าง ๆ ให้แก่คลังหลวงได้ดำเนินการมาแล้ว จนถึงครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๑๒ และเป็นวันปิดโครงการ รวมจำนวนทองคำที่ได้รับบริจาคทั้งสิ้น ๑๐ ตัน และเงิน ๑๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา มูลค่าประมาณห้าพันแปดร้อยล้านบาท นับเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจ และยากที่จะมีผู้ใดกระทำได้ โครงการช่วยชาตินอกจากทำให้คนในชาติรู้รักสามัคคี สอนให้คนไทยรู้จักแบ่งปันและเสียสละเพื่อบ้านเมืองในยามที่ชาติต้องการแล้ว ทุกครั้งที่รับผ้าป่าช่วยชาติพระธรรมวิสุทธิมงคล ยังได้เทศนาสั่งสอนให้ทุกคนทำแต่กรรมดีอีกด้วย
ข้าพระพุทธเจ้าและผู้ที่เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอยู่ ณ ที่นี้ มีความเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยคือแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองอย่างแน่แท้ เพราะทองคำและเงินทุกบาทที่โครงการช่วยชาติได้รับมาจากทั่วแผ่นดิน โดยอาศัยหลักธรรมเป็นหลักนำ ทำให้อบอุ่นใจได้ว่า ภายใต้ร่มเงาของพระมหากษัตริย์และพระศาสนา ประเทศชาติของเราจะวัฒนาสถาพรตลอดไป ในนามของคณะรัฐบาลและปวงชนชาวไทย ข้าพระพุทธเจ้าขอขอบพระคุณในความเสียสละ ความอดทน และความมุ่งมั่นของพระธรรมวิสุทธิมงคล จนเป็นส่วนหนึ่งในการกอบกู้ประเทศชาติให้รอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ และขอประกาศเกียรติคุณของพระธรรมวิสุทธิมงคลไว้ ณ โอกาสนี้
บัดนี้ได้เวลาอันเป็นอุดมมงคลแล้ว ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระราชานุญาตมอบทองคำและเงินตราต่างประเทศในโครงการช่วยชาติ ให้แก่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อนำเข้าสู่คลังหลวงตามเจตนารมณ์ของผู้บริจาคต่อไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

(ลำดับต่อมา หลวงตามหาบัวให้ศีลและแสดงพระธรรมเทศนาดังต่อไปนี้)
วันนี้เป็นวันมหามงคลของพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศ โดยมีสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ได้เสด็จมาเป็นประธานในงานนี้ จึงรู้สึกว่าเป็นมงคลอันสูงสุด ในวันนี้เป็นวันที่ได้มอบทองคำและดอลลาร์ ที่พี่น้องทั้งหลายทั้งประเทศได้อุตส่าห์พยายามขวนขวายหามาด้วยความรักชาติความเสียสละด้วยความพร้อมเพรียงกันเป็นต้นมา ตั้งแต่วันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๔๑ จนกระทั่งถึงบัดนี้ ปรากฏผลแห่งความรักชาติ ความเสียสละด้วยความพร้อมเพรียงกัน ปรากฏว่ารวมทั้งหมดทองคำได้ ๑๐ ตัน ๓๑๒ กิโลครึ่ง เกิน ๑๐ ตัน ๓๑๒ กิโลครึ่ง ดอลลาร์ที่มอบในวันที่ ๑๒ เมษายนนี้ ๒,๐๐๔,๖๐๐ ดอลล์ คิดเป็นเงินดอลลาร์มอบแล้วทั้งหมด เป็น ๑๐,๒๑๔,๖๐๐ ดอลล์ เกิน ๑๐ ล้านดอลล์มา ๒๑๔,๖๐๐ ดอลล์ ไม่นับรวมดอกเบี้ยอีก ๕๘๐,๐๐๐ เข้าด้วย
นี่ผลของความอุตส่าห์พยายามด้วยความพร้อมเพรียง ความสามัคคีของพี่น้องทั้งหลายได้เห็นผลประจักษ์เป็นที่พอใจ นี่คือกำลังแห่งความรักชาติ กำลังแห่งความเสียสละก็ตามมาด้วยความพร้อมเพรียงสามัคคี ทั้งนี้ก็คือศาสนธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้ชี้แนวทาง โดยหลวงตาเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลายโดยอรรถโดยธรรม แนะนำสั่งสอนทั้งทางด้านวัตถุและนามธรรม คือทางด้านจิตใจตลอดมาจนกระทั่งบัดนี้ การเทศนาว่าการนี้เพื่อจิตใจของพี่น้องชาวไทยเราด้วยความเป็นผู้รักตน
ตามบาลีท่านว่า นตฺถิ อตฺตสมํ เปมํ ความรักอื่นเสมอด้วยตนไม่มี ความรักตนเป็นสำคัญมาก การรักตนต้องมีการระมัดระวังรักษาตนในทางที่ถูกที่ดี ไม่ใช่รักตนแล้วไปทำสุ่มสี่สุ่มห้า ตามอำนาจแห่งความอยาก ความทะเยอทะยาน ไม่เป็นประโยชน์ นั้นไม่ใช่คนรักตน คนรักตนต้องเป็นผู้มีธรรมติดแนบภายในจิตใจ เพราะธรรมอยู่ในจิตใจของผู้ใด ใจของผู้นั้นต้องมีความชุ่มเย็น มีเหตุมีผล มีหลักมีเกณฑ์ในการประพฤติตัว ตลอดหน้าที่การงานเป็นลำดับลำดา และสังคมทั่ว ๆ ไป
ถ้าต่างคนต่างมีอรรถมีธรรมภายในจิตใจแล้วความเดือดร้อนจะมีน้อย ไม่ค่อยมีมากเหมือนการปล่อยตนแบบความรักตนด้วยอำนาจของกิเลส ทำให้เกิดความโลภมาก ความโกรธ ราคะตัณหา ซึ่งเป็นภัยต่อหัวใจของเราและหัวใจของโลกมากขึ้น ความทุกข์จึงติดตามมาจากไฟเหล่านี้แล เมื่อมีธรรมเป็นเครื่องกำจัดรักษาอยู่เสมอแล้วจะมีความสงบร่มเย็น วันนี้จึงขอฝากธรรมไว้กับบรรดาพี่น้องชาวพุทธทั้งหลายได้นำไปเป็นคติเครื่องเตือนใจ โดยอาศัยธรรมะติดแนบอยู่กับใจโดยสม่ำเสมอ อย่าให้ห่างเหินจากธรรม ถ้าห่างเหินมากน้อยฟืนไฟที่เป็นพิษเป็นภัยจากกิเลสนั้น จะค่อยลุกลามเข้ามาๆ ทำลายตัวของเราตลอดส่วนรวมให้เสียหายเป็นลำดับลำดาไป
เมื่อมีธรรมเป็นเครื่องรักษาแล้ว ไม่ว่าส่วนย่อยส่วนใหญ่จะมีหลักมีเกณฑ์ มีเหตุมีผล การอยู่การกิน การใช้สอยในครอบครัวผัวเมียกันก็มีความพอดิบพอดี ไม่สุรุ่ยสุร่าย อีลุ่ยฉุยแฉก ซึ่งเป็นสิ่งทำลายตนและสมบัติของตนแล้วทำให้เสียคนได้ คนมีธรรมย่อมรู้จักประมาณในการอยู่การกิน การใช้การสอย ไม่ฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ลืมเนื้อลืมตัว นี่คือผู้มีธรรมในใจ ถ้าผู้ไม่มีธรรมในใจก็มีแต่ความดีดความดิ้น ความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมไปกับกิเลสซึ่งเป็นการขนฟืนขนไฟ ความทุกข์ร้อนเข้ามาสู่ใจ ทำให้เกิดความเดือดร้อน ธรรมเป็นน้ำดับไฟให้นำมาดับตนเสมอ จะคิดอ่านไตร่ตรองหน้าที่การงาน การประพฤติตัวควรมีธรรมเป็นเครื่องกำกับใจเสมอเราจะไม่ลืมตัวง่าย ๆ เมื่อไม่ลืมตัวแล้วความดีก็ย่อมติดอยู่กับตัวของเรา
วันนี้จึงได้แสดงธรรมะย่อๆ ในวันสุดท้ายแห่งการช่วยชาติ ให้พี่น้องทั้งหลายได้นำไปคิดอ่านไตร่ตรองว่า ผลงานที่เราได้มาวันนี้เห็นประจักษ์ด้วยความรักชาติ ถ้าเรารักเรา เราก็ต้องเสาะแสวงหาสมบัติมาเป็นชิ้นเป็นอันเพื่อเป็นแก่นสารในตัวและครอบครัวของเรา นี่เรียกว่าเรารักตน นี้เรารักชาติเราก็อุตส่าห์พยายามขวนขวายมาอุดหนุนค้ำจุนชาติของเรา ชาติไทยก็มีความแน่นหนามั่นคงและมีความสง่างาม เป็นศักดิ์ศรีดีงามแก่ชาติไทยของเรา เช่นอย่างทองคำ-ดอลลาร์นี้ละเป็นเครื่องประกาศความรักชาติ ความเสียสละด้วยความพร้อมเพรียงกัน
จึงขอให้นำเรื่องอย่างนี้ไปปฏิบัติต่อตัวเองด้วยความรักตน ให้เสาะแสวงหาแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ตนนำมาอยู่กิน ใช้สอย และประพฤติตัวก็เพื่อเป็นประโยชน์แก่ตัว อย่าไปประพฤติเพื่อความเสียหายอันเป็นทางความเดือดร้อนวุ่นวาย ให้นำธรรมะนี้ไปปฏิบัติตนเอง สมชื่อสมนามว่าเราเป็นชาวพุทธ ธรรมะของพระพุทธเจ้าไม่เคยครึเคยล้าสมัยแต่ไหนแต่ไรมา เป็นน้ำดับไฟได้ตลอดๆ มาอย่างนี้
นอกจากเราไม่สนใจกับอรรถกับธรรม แล้วก็ให้กิเลสกล่อมจิตกล่อมใจ ถือว่ากิเลสเป็นของเลิศของเลอ ของทันสมัย กลายเป็นเรื่องว่าเห็นธรรมครึล้าสมัย นี้คือความครึล้าสมัยของคนผู้ไม่มีธรรม สร้างแต่ความทุกข์ความเดือดร้อนแก่ตน ด้วยความที่ว่าทันสมัยนั้นแหละ จึงขอให้ท่านทั้งหลายซึ่งเป็นชาวพุทธนำไปประพฤติปฏิบัติ เป็นคติเครื่องเตือนใจประจำตัวเอง ครอบครัวเหย้าเรือนและสังคม ตลอดหน้าที่การงานต่างๆ แต่ส่วนย่อยถึงส่วนใหญ่ ขอให้มีธรรมเป็นเครื่องปกครองตนอยู่เสมอ ทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความแคล้วคลาดปลอดภัย หน้าที่การงานก็จะสะอาด ไม่สกปรกรกรุงรัง เป็นฟืนเป็นไฟมาเผาตนและส่วนรวม
วันนี้ก็แสดงธรรมเพียงเท่านี้ จึงขอขอบคุณกับบรรดาพี่น้องทั้งหลายที่ได้อุตส่าห์พยายามตะเกียกตะกายกับหลวงตาซึ่งเป็นผู้นำตลอดมา จนกระทั่งได้ผลเป็นที่พอใจอย่างนี้ จึงขอความสุขความเจริญจงมีแก่บรรดาพี่น้องทั้งหลายโดยทั่วกันเทอญ
(หลังจากหลวงตาแสดงพระธรรมเทศนาจบแล้ว ท่านเจ้าคุณพระพุทธพจน์วราภรณ์และคณะสงฆ์ให้พร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินกลับ)

(ลำดับต่อมา ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาถวายต้นผ้าป่าทองคำและดอลลาร์ เงินสดแด่หลวงตามหาบัว เสร็จแล้วหลวงตาให้พร)

 

 
< ก่อนหน้า   ถัดไป >