งานปิดโครงการช่วยชาติ และ พิธีมอบทองคำและดอลลาร์เข้าคลังหลวง ครั้งที่ ๑๒ |
พระธรรมเทศนาหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เนื่องในวโรกาสสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ เสด็จพร้อมด้วย ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีมอบทองคำและดอลลาร์เข้าคลังหลวง ครั้งที่ ๑๒ และปิดโครงการช่วยชาติ เมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗ ความมุ่งหมายของชาติไทย ความมุ่งหมายขององค์ศาสดา
(ก่อนฯพณฯท่านนายกรัฐมนตรีจะเดินทางมาถึงในพิธี พิธีกรได้สัมภาษณ์ ท่านผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล และดร.วีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นลำดับ)
พิธีกรหญิง กราบขอบพระคุณค่ะ พอท่านพูดถึงคลังหลวงนะคะ ดิฉันมีข้อมูลที่ทางบรรพบุรุษเราบอกว่า “ทรัพย์สินของหลวง ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้” ก็เรียกว่าเป็นไปตามคำกล่าวของบรรพบุรุษจริง ๆ นะคะ ความเป็นมาของคลังหลวงนะคะ มีหลักฐานปรากฏในกฎหมายสมัยอยุธยา แล้วก็กฎหมายอาญาหลวง อาญาราษฎร์ ในบทที่ ๒ นะคะ ว่า “ผู้ใดบังอาจลักพระราชทรัพย์ในพระคลังหลวง นอกพระคลังหลวง ให้ลงโทษ ๘ สถาน” แล้วก็มีสำนวนในกฎหมายบอกว่า “แก้วฤาจะรู้หมอง ทองฤาจะรู้เศร้า พระราชทรัพย์ของพระผู้เป็นเจ้าจิรกาล นานช้าเท่าไรบ่สูญ” แล้วก็เงินคลังหลวงนี่นะคะ มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ ร.ศ. ๑๒๗ นะคะ ในรัชกาลของสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนะคะ พระองค์ได้ประทานเงินมาเป็นทุนของชาติไว้ ๑๒ ล้านบาทค่ะ
ดร.สุรเกียรติ ขอเดชะ ฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้านายสุรเกียรติ เสถียรไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดงานปิดโครงการช่วยชาติ โดยหลวงตา มหาบัว ญาณสัมปันโน คณะกรรมการจัดงาน คณะศิษยานุศิษย์ของหลวงตา ประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่า ตลอดจนผู้ที่ได้มาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอยู่ ณ ที่นี้ ต่างมีความปีติยินดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้ทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินมาพร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เพื่อมาทรงเป็นประธานในพิธีปิดโครงการช่วยชาติในวันนี้ โอกาสนี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระราชวโรกาสกราบบังคมทูลทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท เกี่ยวกับความเป็นมาของพิธีปิดโครงการช่วยชาติโดยสังเขปดังนี้ ย้อนหลังไปเมื่อวันหนึ่งในเดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๔๐ ในขณะที่หลวงตาได้เดินทางไปแจกสิ่งของให้กับโรงพยาบาลในท้องถิ่นกันดาร อันเป็นกิจวัตรที่หลวงตาได้ปฏิบัติอยู่เป็นเนืองนิตย์ ในวันนั้นจึงได้ทราบว่าโรงพยาบาลมีหนี้สินเป็นอันมาก จนไม่สามารถจะชำระหนี้ให้แก่บริษัทหรือร้านค้าที่ซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ได้ ทั้งที่มิได้ก่อหนี้สินใดๆ ขึ้น หากแต่เป็นหนี้อันเกิดจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่เปลี่ยนไปเอง ซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตทางการเงินของประเทศ ทำให้หลวงตารู้สึกสลดใจเป็นอันมาก ท่านจึงดำริที่จะช่วยชาติช่วยแผ่นดิน โดยทุ่มเทน้อมนำพี่น้องชาวไทยทั่วประเทศให้ร่วมกันบริจาคเงิน เพื่อช่วยชาติบ้านเมืองของเรา โครงการช่วยชาติจึงได้เกิดขึ้นตั้งแต่บัดนั้น โดยได้รับเงินบริจาคประเดิมรายแรกเมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๑ เป็นเงินจำนวน ๒,๕๐๐ เหรียญสหรัฐ เป็นปฐมฤกษ์ และเริ่มดำเนินการอย่างจริงจังตั้งแต่วันที่ ๑๒ เมษายนปีเดียวกันเป็นต้นมา ซึ่งถือเป็นวันเปิดโครงการ โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ได้ทรงพระกรุณาเสด็จไปเป็นองค์ประธานเปิดโครงการ หลังจากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทก็ได้เสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ไปยังสำนักสงฆ์สวนแสงธรรม เพื่อถวายพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ร่วมในโครงการช่วยชาติกับหลวงตา นับว่าเป็นมหาอุดมมงคลอันยิ่งใหญ่ต่อโครงการช่วยชาติของหลวงตา ด้วยแรงศรัทธาจากทุกสารทิศต่อหลวงตามหาบัว และด้วยความรักชาติรักแผ่นดินของชาวไทยทุกหมู่เหล่า เป็นเหตุให้ทองคำ เงินเหรียญสหรัฐ เงินตราสกุลต่างประเทศ รวมทั้งเงินบาท หลั่งไหลเข้าสู่บัญชีช่วยชาติอย่างต่อเนื่องมิได้ขาดสาย และหลวงตาก็ได้รวบรวมส่งมอบให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเพื่อนำเข้าบัญชีฝ่ายออกบัตร หรือคลังหลวง ตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงบัดนี้นับได้ ๑๑ ครั้ง ในครั้งที่ ๑๑ เมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๖ รวมเป็นสินทรัพย์ที่มอบเข้าคลังหลวงไปแล้วทั้งสิ้น ประกอบด้วยทองคำแท่งบริสุทธิ์ ๙๙.๙๙% จำนวน ๙,๑๒๕ กิโลกรัม หรือประมาณ ๙.๑ ตัน และเงินจำนวน ๘,๒๑๐,๐๐๐ เหรียญสหรัฐ ณ เวลานี้ทองคำและเงินเหรียญสหรัฐได้เพิ่มจำนวนจนบรรลุถึงเป้าหมายที่หลวงตาตั้งใจไว้แล้ว คือทองคำจำนวน ๑๐ ตัน และเงินเหรียญสหรัฐจำนวน ๑๐ ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งจะมีการมอบเข้าคลังหลวงในวันนี้เป็นครั้งที่ ๑๒ ก่อนปิดโครงการ ซึ่งมีทองคำในวันนี้จำนวน ๙๕ แท่ง คิดเป็นน้ำหนัก ๑,๑๘๗.๕ กิโลกรัม และเงินจำนวน ๒,๐๐๔,๖๐๐ เหรียญสหรัฐ โดยมีส่วนเกินจากเป้าหมายเป็นทองคำจำนวน ๓๑๒.๕ กิโลกรัม และเงินอีกจำนวน ๒๑๔,๖๐๐ เหรียญสหรัฐ ระยะเวลา ๖ ปีของการดำเนินโครงการเป็นเวลาไม่น้อยสำหรับหลวงตาผู้ซึ่งชราภาพมาก แต่ก็เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นอดทนเต็มกำลัง ถ้าคิดจำนวนระยะทางที่หลวงตาเดินทางไปแสดงธรรมตามที่ต่าง ๆ เพื่อรับเงินผ้าป่านั้นนับได้เป็นแสนกิโลเมตร ด้วยแรงเมตตาที่หลวงตาท่านเห็นว่า เราแต่ละคนต่างอยู่ได้เพราะมีประเทศชาติ แต่จะไม่มี ใครอยู่ได้ถ้าชาติล่มจม หลวงตามหาบัวได้กำหนดไว้ว่า ในวันปิดโครงการนี้ถือเป็นวันที่ชาวไทยทุกคนถือเป็นโอกาสในการทำบุญถวายเป็นพระราชกุศลแด่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ในวโรกาสเฉลิมพระชนม์พรรษา ๖ รอบ ๗๒ พระชันษา ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจ เพื่อความมั่นคงของชาติ เพื่อความสุขของประชาชน และเพื่อเทิดทูนพระพุทธศาสนาเคียงคู่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯมาโดยตลอด โดยไม่ทรงนึกถึงความเหน็ดเหนื่อยพระวรกายแต่อย่างใด และเป็นคุณูปการต่อแผ่นดินไทย และเป็นบุญของพสกนิกรไทยยิ่งนักที่มีองค์สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ที่ทรงรักและทุ่มเทให้กับชาติไทยเป็นเวลาช้านานต่อเนื่องมาตลอด ซึ่งเป็นเป้าหมายเดียวกันกับที่หลวงตามหาบัวได้นำพี่น้องคนไทยเสียสละเพื่อชาติบ้านเมืองในยามวิกฤตด้วย วันนี้วันจันทร์ที่ ๑๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๗ นับว่าเป็นมหามงคลฤกษ์ ซึ่งจะได้จารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของชาติไทย ว่าบัดนี้สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยได้เข้าสู่ภาวะปกติ รัฐบาลภายใต้การนำของฯพณฯ พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ชำระหนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอ เอ็ม เอฟ เมื่อเดือนกรกฎาคม ๒๕๔๖ ทั้งหมดแล้ว ซึ่งเป็นการชำระหนี้ล่วงหน้าเป็นเวลาถึง ๒ ปี หลวงตามหาบัวจึงพิจารณาแล้วเห็นว่า ถึงเวลาสมควรที่จะยุติโครงการดังกล่าว โดยให้จัดพิธีปิดโครงการช่วยชาติขึ้น พร้อมทั้งจะมอบทองคำกับเงินเหรียญสหรัฐที่ได้รับบริจาคเพิ่มเติมไว้เข้าสู่ท้องพระคลังหลวง การมอบทองคำและเงินเหรียญสหรัฐในวันนี้ ย่อมเป็นประวัติศาสตร์ของชาติอีกวาระหนึ่ง ดังที่ปรากฏแก่สายตาแล้วว่า ขณะนี้สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์สานกันไว้ด้วยความสมานฉันท์ พระมหากรุณาธิคุณที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทเสด็จมาเป็นองค์ประธานในงานนี้ ตลอดจนศรัทธาของปวงชนทั้งหลายย่อมเป็นเสมือนฟ้าและดินที่หล่อหลอมเข้าด้วยกันภายใต้ร่มเงาแห่งศาสนา จึงนับเป็นมหาอุดมมงคล เป็นบุญตาบุญใจยิ่งนัก สมดังคำกล่าวของหลวงตาว่า อำนาจแห่งความรักชาติ ความสามัคคีแห่งความเสียสละของพี่น้องชาวไทยมารวมตัวกันแล้วยกได้ทั้งประเทศ ในวาระอันเป็นมหามงคลที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ได้ทรงพระกรุณาเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นประธานในพิธีปิดโครงการช่วยชาติ โดยหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโนในวันนี้ ข้าพระพุทธเจ้าในนามของประชาชนชาวไทย และทุกท่านที่มาชุมนุมอยู่ ณ ที่นี้ รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอย่างหาที่สุดมิได้ และขอพระราชทานพระราชวโรกาสน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระพรชัยมงคล ขอให้ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงพระเจริญยิ่งยืนนาน มีพระพลานามัยแข็งแรง เป็นมิ่งขวัญและที่พึ่งของปวงข้าพระพุทธเจ้าสืบไปชั่วกาลนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ (ลำดับต่อมา ฯพณฯ พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถวายรายงานแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ) พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ข้าพระพุทธเจ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในนามคณะรัฐบาลและปวงชนชาวไทยขอพระราชทานพระราชานุญาตประกาศเกียรติคุณพระธรรมวิสุทธิมงคล แห่งวัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี ผู้ริเริ่มและดำเนินโครงการช่วยชาติจนประสบผลสำเร็จตามเป้าหมายในวันนี้ พระธรรมวิสุทธิ มงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เป็นชาวบ้านตาดโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๔๕๖ ได้อุปสมบทที่วัดโยธานิมิตร เมื่อวันที่ ๑๒ พฤษภาคม ๒๔๗๗ และอยู่ในบวรพุทธศาสนาตลอดมาจวบจนปัจจุบัน พระธรรมวิสุทธิมงคลเป็นพระเถระที่เปี่ยมด้วยคุณธรรม จริยธรรม เป็นที่ประจักษ์แก่บุคคลทั่วไป เมื่อท่านได้ทราบถึงวิกฤตทางการเงินของชาติ จึงได้ดำเนินโครงการช่วยชาติขึ้น ด้วยการชักชวนพี่น้องประชาชนผู้มีจิตศรัทธา ให้ช่วยกันเสียสละและแบ่งปันทรัพย์ เพื่อรวบรวมเข้าสู่คลังหลวงเป็นสมบัติของชาติบ้านเมือง ตลอดระยะเวลา ๖ ปีที่ผ่านมานี้ พระธรรมวิสุทธิมงคลได้เสียสละแรงกายแรงใจ และเดินทางไปทุกหนแห่งที่มีผู้มีจิตศรัทธาจะร่วมในโครงการ ทั้งยังได้ขอให้คนไทยร่วมใจและสามัคคีปรองดองเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อช่วยประเทศให้พ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ การมอบทองคำและเงินตราสกุลต่าง ๆ ให้แก่คลังหลวงได้ดำเนินการมาแล้ว จนถึงครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๑๒ และเป็นวันปิดโครงการ รวมจำนวนทองคำที่ได้รับบริจาคทั้งสิ้น ๑๐ ตัน และเงิน ๑๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา มูลค่าประมาณห้าพันแปดร้อยล้านบาท นับเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจ และยากที่จะมีผู้ใดกระทำได้ โครงการช่วยชาตินอกจากทำให้คนในชาติรู้รักสามัคคี สอนให้คนไทยรู้จักแบ่งปันและเสียสละเพื่อบ้านเมืองในยามที่ชาติต้องการแล้ว ทุกครั้งที่รับผ้าป่าช่วยชาติพระธรรมวิสุทธิมงคล ยังได้เทศนาสั่งสอนให้ทุกคนทำแต่กรรมดีอีกด้วย ข้าพระพุทธเจ้าและผู้ที่เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอยู่ ณ ที่นี้ มีความเชื่อมั่นว่า ประเทศไทยคือแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองอย่างแน่แท้ เพราะทองคำและเงินทุกบาทที่โครงการช่วยชาติได้รับมาจากทั่วแผ่นดิน โดยอาศัยหลักธรรมเป็นหลักนำ ทำให้อบอุ่นใจได้ว่า ภายใต้ร่มเงาของพระมหากษัตริย์และพระศาสนา ประเทศชาติของเราจะวัฒนาสถาพรตลอดไป ในนามของคณะรัฐบาลและปวงชนชาวไทย ข้าพระพุทธเจ้าขอขอบพระคุณในความเสียสละ ความอดทน และความมุ่งมั่นของพระธรรมวิสุทธิมงคล จนเป็นส่วนหนึ่งในการกอบกู้ประเทศชาติให้รอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ และขอประกาศเกียรติคุณของพระธรรมวิสุทธิมงคลไว้ ณ โอกาสนี้ บัดนี้ได้เวลาอันเป็นอุดมมงคลแล้ว ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระราชานุญาตมอบทองคำและเงินตราต่างประเทศในโครงการช่วยชาติ ให้แก่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อนำเข้าสู่คลังหลวงตามเจตนารมณ์ของผู้บริจาคต่อไป ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ (ลำดับต่อมา หลวงตามหาบัวให้ศีลและแสดงพระธรรมเทศนาดังต่อไปนี้) นี่ผลของความอุตส่าห์พยายามด้วยความพร้อมเพรียง ความสามัคคีของพี่น้องทั้งหลายได้เห็นผลประจักษ์เป็นที่พอใจ นี่คือกำลังแห่งความรักชาติ กำลังแห่งความเสียสละก็ตามมาด้วยความพร้อมเพรียงสามัคคี ทั้งนี้ก็คือศาสนธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้ชี้แนวทาง โดยหลวงตาเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลายโดยอรรถโดยธรรม แนะนำสั่งสอนทั้งทางด้านวัตถุและนามธรรม คือทางด้านจิตใจตลอดมาจนกระทั่งบัดนี้ การเทศนาว่าการนี้เพื่อจิตใจของพี่น้องชาวไทยเราด้วยความเป็นผู้รักตน ตามบาลีท่านว่า นตฺถิ อตฺตสมํ เปมํ ความรักอื่นเสมอด้วยตนไม่มี ความรักตนเป็นสำคัญมาก การรักตนต้องมีการระมัดระวังรักษาตนในทางที่ถูกที่ดี ไม่ใช่รักตนแล้วไปทำสุ่มสี่สุ่มห้า ตามอำนาจแห่งความอยาก ความทะเยอทะยาน ไม่เป็นประโยชน์ นั้นไม่ใช่คนรักตน คนรักตนต้องเป็นผู้มีธรรมติดแนบภายในจิตใจ เพราะธรรมอยู่ในจิตใจของผู้ใด ใจของผู้นั้นต้องมีความชุ่มเย็น มีเหตุมีผล มีหลักมีเกณฑ์ในการประพฤติตัว ตลอดหน้าที่การงานเป็นลำดับลำดา และสังคมทั่ว ๆ ไป ถ้าต่างคนต่างมีอรรถมีธรรมภายในจิตใจแล้วความเดือดร้อนจะมีน้อย ไม่ค่อยมีมากเหมือนการปล่อยตนแบบความรักตนด้วยอำนาจของกิเลส ทำให้เกิดความโลภมาก ความโกรธ ราคะตัณหา ซึ่งเป็นภัยต่อหัวใจของเราและหัวใจของโลกมากขึ้น ความทุกข์จึงติดตามมาจากไฟเหล่านี้แล เมื่อมีธรรมเป็นเครื่องกำจัดรักษาอยู่เสมอแล้วจะมีความสงบร่มเย็น วันนี้จึงขอฝากธรรมไว้กับบรรดาพี่น้องชาวพุทธทั้งหลายได้นำไปเป็นคติเครื่องเตือนใจ โดยอาศัยธรรมะติดแนบอยู่กับใจโดยสม่ำเสมอ อย่าให้ห่างเหินจากธรรม ถ้าห่างเหินมากน้อยฟืนไฟที่เป็นพิษเป็นภัยจากกิเลสนั้น จะค่อยลุกลามเข้ามาๆ ทำลายตัวของเราตลอดส่วนรวมให้เสียหายเป็นลำดับลำดาไป เมื่อมีธรรมเป็นเครื่องรักษาแล้ว ไม่ว่าส่วนย่อยส่วนใหญ่จะมีหลักมีเกณฑ์ มีเหตุมีผล การอยู่การกิน การใช้สอยในครอบครัวผัวเมียกันก็มีความพอดิบพอดี ไม่สุรุ่ยสุร่าย อีลุ่ยฉุยแฉก ซึ่งเป็นสิ่งทำลายตนและสมบัติของตนแล้วทำให้เสียคนได้ คนมีธรรมย่อมรู้จักประมาณในการอยู่การกิน การใช้การสอย ไม่ฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ลืมเนื้อลืมตัว นี่คือผู้มีธรรมในใจ ถ้าผู้ไม่มีธรรมในใจก็มีแต่ความดีดความดิ้น ความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมไปกับกิเลสซึ่งเป็นการขนฟืนขนไฟ ความทุกข์ร้อนเข้ามาสู่ใจ ทำให้เกิดความเดือดร้อน ธรรมเป็นน้ำดับไฟให้นำมาดับตนเสมอ จะคิดอ่านไตร่ตรองหน้าที่การงาน การประพฤติตัวควรมีธรรมเป็นเครื่องกำกับใจเสมอเราจะไม่ลืมตัวง่าย ๆ เมื่อไม่ลืมตัวแล้วความดีก็ย่อมติดอยู่กับตัวของเรา วันนี้จึงได้แสดงธรรมะย่อๆ ในวันสุดท้ายแห่งการช่วยชาติ ให้พี่น้องทั้งหลายได้นำไปคิดอ่านไตร่ตรองว่า ผลงานที่เราได้มาวันนี้เห็นประจักษ์ด้วยความรักชาติ ถ้าเรารักเรา เราก็ต้องเสาะแสวงหาสมบัติมาเป็นชิ้นเป็นอันเพื่อเป็นแก่นสารในตัวและครอบครัวของเรา นี่เรียกว่าเรารักตน นี้เรารักชาติเราก็อุตส่าห์พยายามขวนขวายมาอุดหนุนค้ำจุนชาติของเรา ชาติไทยก็มีความแน่นหนามั่นคงและมีความสง่างาม เป็นศักดิ์ศรีดีงามแก่ชาติไทยของเรา เช่นอย่างทองคำ-ดอลลาร์นี้ละเป็นเครื่องประกาศความรักชาติ ความเสียสละด้วยความพร้อมเพรียงกัน จึงขอให้นำเรื่องอย่างนี้ไปปฏิบัติต่อตัวเองด้วยความรักตน ให้เสาะแสวงหาแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์แก่ตนนำมาอยู่กิน ใช้สอย และประพฤติตัวก็เพื่อเป็นประโยชน์แก่ตัว อย่าไปประพฤติเพื่อความเสียหายอันเป็นทางความเดือดร้อนวุ่นวาย ให้นำธรรมะนี้ไปปฏิบัติตนเอง สมชื่อสมนามว่าเราเป็นชาวพุทธ ธรรมะของพระพุทธเจ้าไม่เคยครึเคยล้าสมัยแต่ไหนแต่ไรมา เป็นน้ำดับไฟได้ตลอดๆ มาอย่างนี้ นอกจากเราไม่สนใจกับอรรถกับธรรม แล้วก็ให้กิเลสกล่อมจิตกล่อมใจ ถือว่ากิเลสเป็นของเลิศของเลอ ของทันสมัย กลายเป็นเรื่องว่าเห็นธรรมครึล้าสมัย นี้คือความครึล้าสมัยของคนผู้ไม่มีธรรม สร้างแต่ความทุกข์ความเดือดร้อนแก่ตน ด้วยความที่ว่าทันสมัยนั้นแหละ จึงขอให้ท่านทั้งหลายซึ่งเป็นชาวพุทธนำไปประพฤติปฏิบัติ เป็นคติเครื่องเตือนใจประจำตัวเอง ครอบครัวเหย้าเรือนและสังคม ตลอดหน้าที่การงานต่างๆ แต่ส่วนย่อยถึงส่วนใหญ่ ขอให้มีธรรมเป็นเครื่องปกครองตนอยู่เสมอ ทุกสิ่งทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความแคล้วคลาดปลอดภัย หน้าที่การงานก็จะสะอาด ไม่สกปรกรกรุงรัง เป็นฟืนเป็นไฟมาเผาตนและส่วนรวม วันนี้ก็แสดงธรรมเพียงเท่านี้ จึงขอขอบคุณกับบรรดาพี่น้องทั้งหลายที่ได้อุตส่าห์พยายามตะเกียกตะกายกับหลวงตาซึ่งเป็นผู้นำตลอดมา จนกระทั่งได้ผลเป็นที่พอใจอย่างนี้ จึงขอความสุขความเจริญจงมีแก่บรรดาพี่น้องทั้งหลายโดยทั่วกันเทอญ (หลังจากหลวงตาแสดงพระธรรมเทศนาจบแล้ว ท่านเจ้าคุณพระพุทธพจน์วราภรณ์และคณะสงฆ์ให้พร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินกลับ) (ลำดับต่อมา ประชาชนผู้มีจิตศรัทธาถวายต้นผ้าป่าทองคำและดอลลาร์ เงินสดแด่หลวงตามหาบัว เสร็จแล้วหลวงตาให้พร)
|
< ก่อนหน้า | ถัดไป > |
---|