ลืมรหัสผ่าน?
  • Narrow screen resolution
  • Wide screen resolution
  • Auto width resolution
  • Increase font size
  • Decrease font size
  • Default font size
  • default color
  • red color
  • green color
Home arrow ข่าวจากสื่อ arrow กฎหมายและนโยบายทางการเงิน...โจทย์สำคัญที่รัฐบาลใหม่ไม่ควรมองข้าม (มองเศรษฐกิจฉบับที่ 2094)
กฎหมายและนโยบายทางการเงิน...โจทย์สำคัญที่รัฐบาลใหม่ไม่ควรมองข้าม (มองเศรษฐกิจฉบับที่ 2094) PDF พิมพ์ อีเมล์
_top_02_kr.gifหลังจากการเลือกตั้งใหญ่ในวันที่ 23 ธันวาคม 2550 ที่ผ่านมาผ่านพ้นไปด้วยดี และการเมืองไทยกำลังก้าวย่างเข้าสู่จังหวะที่จะมีรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง เข้ามาบริหารประเทศ   ดังนั้น จึงเป็นที่แน่นอนว่า ประชาชนในประเทศและนักลงทุนต่างชาติ คงจะจับตามองทั้งการฟอร์มรัฐบาลใหม่ และนโยบายการบริหารประเทศในด้านต่างๆ อย่างใกล้ชิด ว่าจะสามารถนำพาเศรษฐกิจประเทศให้เฟื่องฟูขึ้นได้หรือไม่ ... เพียงใด           เนื่องจากในปี 2551 จะเป็นปีที่เศรษฐกิจไทย จะต้องพึ่งพิงแรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายและลงทุนในประเทศมากขึ้น หลังจากที่ภาคการส่งออกอาจได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จากปัญหาสินเชื่อซับไพร์ม   ดังนั้น จึงทำให้รัฐบาลใหม่ต้องเร่งพลิกฟื้นความเชื่อมั่น ซึ่งอาจนำมาสู่การตัดสินใจเชิงนโยบายต่างๆ ที่สำคัญ โดยเฉพาะนโยบายด้านการเงินและอัตราแลกเปลี่ยนที่กำลังอยู่ในกระแสวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในปัจจุบัน  ทั้งนี้ โจทย์ด้านนโยบาย ที่อาจถือเป็นหนึ่งในการบ้านสำคัญของรัฐบาลใหม่ คือ การปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.เงินตรา การยกขีดความสามารถของระบบสถาบันการเงินไทยภายใต้แผนพัฒนาระบบสถาบันการเงินฉบับที่สอง ตลอดจน การเพิ่มความชัดเจนด้านนโยบายอัตราแลกเปลี่ยน                         อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินการต่างๆ ดังกล่าว รัฐบาลใหม่จำเป็นต้องพิจารณาผลกระทบจากการออกมาตรการ/นโยบายใหม่ให้ถี่ถ้วนและรอบคอบ ภายใต้หลักและเหตุผลทางวิชาการที่ชัดเจน  นอกจากนี้ รัฐบาลใหม่ยังควรตระหนักว่า ในปัจจุบัน ก็มีสถาบัน หรือองค์กรทางการเงินต่างๆ ซึ่งทำหน้าที่ดูแลและติดตามนโยบายเหล่านั้น อีกทั้งได้มีการวางแนวทางในการพัฒนาสถาบันการเงิน รวมทั้ง ตลาดเงิน ตลาดทุนในอนาคต หรือ Road Map อยู่แล้ว   ดังนั้น การดำเนินการต่างๆ ของรัฐบาลจึงควรจะต้องรับฟังความคิดเห็นของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและดำเนินการอย่างรอบคอบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ภาคธุรกิจ สถาบันการเงิน ตลอดจน นักลงทุนโดยรวมทั้งในและนอกประเทศ  
 
< ก่อนหน้า   ถัดไป >