ด้วยเมตตาธรรมที่มีต่อชาติและพี่น้องชาวไทย หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน จึงได้เปิดตัว “โครงการช่วยชาติ” อย่างเป็นทางการในวันที่ ๑๒ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๑ โดยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธาน ณ สวนแสงธรรม พุทธมณฑลสาย ๓ กรุงเทพมหานคร เพื่อปลุกจิตสำนึกของชาวไทยในยามประสบทุกข์ ให้รู้จักน้อมนำหลักธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวในจิตใจ และทางด้านวัตถุ หลวงตาเมตตาออกมาเป็นผู้นำในการรับบริจาคเงินทองจากพี่น้องชาวไทยทุกภาคทั่วประเทศ เพื่อนำทองคำเข้าสู่ “คลังหลวง” เป็นการรักษาเสถียรภาพทางการเงินให้มั่นคงปลอดภัยและเป็นหลักประกันชาติ สำหรับเงินบาทท่านจะนำไปช่วยสงเคราะห์เป็นสาธารณประโยชน์กระจายไปทั่วประเทศ ในระยะแรกของโครงการท่านนำเงินดอลลาร์เข้าสู่ “คลังหลวง” แต่ในระยะต่อมาหลวงตาประกาศจะนำเงินดอลลาร์ที่รับบริจาคไปทำประโยชน์กระจายทั่วประเทศเหมือนเงินบาท เนื่องจากมีโรงพยาบาล และหน่วยงานราชการต่างๆ มาขอความช่วยเหลือจากท่านจำนวนมาก
การมอบเงินดอลลาร์สหรัฐและทองคำ เข้าสู่ “คลังหลวง” ในโครงการช่วยชาติ
| มอบครั้งที่ 1 |
วันที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 ณ ธนาคารแห่งประเทศไทย |
| |

ม.ร.ว.จตุมงคล โสณกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นผู้รับมอบดอลลาร์
1,278,000 เหรียญสหรัฐ |
| มอบครั้งที่ 2 |
วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2542 ณ ธนาคารแห่งประเทศไทย |
| |

ม.ร.ว.จตุมงคล โสณกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นผู้รับมอบทองคำ
83 แท่ง จำนวน 1,037.5 กิโลกรัม ดอลลาร์ 3,000,000 เหรียญสหรัฐ |
| มอบครั้งที่ 3 |
วันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2544 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง |
| |

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ ทรงเสด็จเป็นองค์ประธาน
โดย พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับมอบในนามรัฐบาล
ทองคำ 82 แท่ง 1,025 กิโลกรัม ดอลลาร์ 1,000,000 เหรียญสหรัฐ |
| มอบครั้งที่ 4 |
วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2544 ณ สวนแสงธรรม |
| |

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นผู้รับมอบทองคำ 55 แท่ง
687.5 กิโลกรัม ดอลลาร์ 300,000 เหรียญสหรัฐ |
| มอบครั้งที่ 5 |
วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2544 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล |
| |
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รับมอบในนามรัฐบาล ทองคำ 145 แท่ง
1,812.5 กิโลกรัม ดอลลาร์ 400,000 เหรียญสหรัฐ |
| มอบครั้งที่ 6 |
วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2545 ณ สวนแสงธรรม |
| |
พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รับมอบในนามรัฐบาลทองคำ 40 แท่ง
500 กิโลกรัม ดอลลาร์ 300,000 เหรียญสหรัฐ |
| มอบครั้งที่ 7 |
วันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. พ.ศ. 2545 ณ ธนาคารแห่งประเทศไทย |
| |
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นผู้รับมอบทองคำ
40 แท่ง 500 กิโลกรัม ดอลลาร์ 300,000 เหรียญสหรัฐ |
| มอบครั้งที่ 8 |
วันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2546 ณ สวนแสงธรรม |
| |
ดร. สุรเกียรติ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ
เป็นตัวแทนรับมอบ แล้วมอบต่อให้ธนาคารแห่งประเทศไทยทองคำ 42 แท่ง 525 กิโลกรัม
ดอลลาร์ 400,000 เหรียญสหรัฐ |
| มอบครั้งที่ 9 |
วันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2546 ณ สวนแสงธรรม |
| |

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นผู้รับมอบทองคำ 49 แท่ง 612.5 กิโลกรัม ดอลลาร์ 432,000 เหรียญสหรัฐ |
| มอบครั้งที่ 10 |
วันที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2546 ณ สวนแสงธรรม |
| |
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นผู้รับมอบทองคำ
82 แท่ง 1,025 กิโลกรัม ดอลลาร์ 300,000 เหรียญสหรัฐ |
| มอบครั้งที่ 11 |
วันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2546 ณ สวนแสงธรรม |
| |

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นผู้รับมอบทองคำ 112 แท่ง
1,400 กิโลกรัม ดอลลาร์ 500,000 เหรียญสหรัฐ |
| มอบครั้งที่ 12 |
วันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2547 ณ เวทีใหม่สวนอัมพร |
| |
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ เสด็จเป็นองค์ประธาน โดย พ.ต.ท. ดร.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
เป็นผู้รับมอบทองคำ 95 แท่ง 1,187.5 กิโลกรัม ดอลลาร์ 2,004,600 เหรียญสหรัฐ |
| มอบครั้งที่ 13 |
วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2547 ณ สวนแสงธรรม |
| |
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ เสด็จเป็นองค์ประธานโดย
ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นผู้รับมอบทองคำ
58 แท่ง 725 กิโลกรัม |
| มอบครั้งที่ 14 |
วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ณ สวนแสงธรรม |
| |

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ ทรงเสด็จเป็นองค์ประธาน
โดย ดร.ธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นผู้รับมอบทองคำ
48 แท่ง 600 กิโลกรัม |
ทองคำและดอลลาร์ ที่มอบเข้าสู่คลังหลวง
๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ - ๑๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๐
| ครั้งที่ |
วันที่มอบ |
จำนวนสินทรัพย์ที่มอบ |
ทองคำ |
ดอลลาร์ |
แท่ง |
กก. |
| 1 |
6 กรกฎาคม 2541 |
- |
- |
1,278,000 |
| 2 |
4 พฤษภาคม 2542 |
83 |
1,037.5 |
3,000,000 |
| 3 |
21 เมษายน 2544 |
82 |
1,025 |
1,000,000 |
| 4 |
2 กรกฎาคม 2544 |
55 |
687.5 |
300,000 |
| 5 |
26 กันยายน 2544 |
145 |
1,812.5 |
400,000 |
| 6 |
11 เมษายน 2545 |
40 |
500 |
300,000 |
| 7 |
10 ธันวาคม 2545 |
40 |
500 |
300,000 |
| 8 |
12 เมษายน 2546 |
42 |
525 |
400,000 |
| 9 |
10 กรกฎาคม 2546 |
49 |
612.5 |
432,000 |
| 10 |
26 สิงหาคม 2546 |
82 |
1,025 |
300,000 |
| 11 |
26 ธันวาคม 2546 |
112 |
1,400 |
500,000 |
| 12 |
12 เมษายน 2547 |
95 |
1187.5 |
2,004,600 |
| รวม |
825 |
10,312.5 |
10,214,600 |
| 13 |
19 สิงหาคม 2547 |
58 |
725 |
- |
| 14 |
19 ธันวาคม 2550 |
48 |
600 |
- |
| รวมทั้งสิ้น |
931 |
11,637.5 |
10,214,600 |
| ทองคำมูลค่า ( 11,637.5 x 855257 ) + ดอลลาร์มูลค่า ( 10,214,600 x 33.96 ) = 9,953,053,337.50 + 346,887,816 (อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 19 ธ.ค.50)รวมมูลค่าเป็นเงินบาททั้งสิ้น 10,299,941,153.50 บาท |
เงินดอลลาร์และทองคำบริจาคจำนวนมากนี้ มาจากน้ำใจชาวไทยทั้งชาติ นับตั้งแต่พระมหากษัตริย์ สมเด็จพระราชินี พระบรมวงศานุวงศ์ หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน พ่อค้า ประชาชน ตลอดจนพระสงฆ์ทั่วประเทศร่วมกันเสียสละเพื่อชาติ เฉพาะอย่างยิ่งการทำ “ผ้าป่าช่วยชาติ” หรือ “กฐินเพื่อชาติ” เป็นการนำจตุปัจจัยที่ประชาชนร่วมทำบุญยกถวายให้เป็นสมบัติของสงฆ์ และสงฆ์มีฉันทามติร่วมบริจาคเข้าสู่ “คลังหลวง” เป็นจำนวนมากและหลายวาระ จึงกล่าวได้ว่า “โครงการช่วยชาติ โดย หลวงตามหาบัว” นี้ เป็นการแสดงความรัก ความเสียสละ และความสามัคคีของคนไทยทุกระดับชั้นทุกภาคทั่วประเทศ รวมน้ำใจกันอุ้มชูชาติขึ้นด้วยการบริจาคเงินทองเข้าสู่ “คลังหลวง” หลอมรวมกับเงินที่เก็บสะสมมาตั้งแต่อดีต นับเป็นการสืบทอดหลักการและเจตนารมณ์ของบรรพบุรุษอย่างเป็นรูปธรรมในอันที่จะเก็บรักษาและเพิ่มพูนสินทรัพย์ในคลังหลวงให้แน่นหนามั่นคงสถาพรยิ่งๆ ขึ้นไป นอกจากนี้ในการบริจาคช่วยชาติแต่ละครั้งนั้น พี่น้องชาวไทยยังพร้อมใจกันกล่าวคำอธิษฐาน ยกเงินและทองขึ้นจบที่ศีรษะเป็นการแสดงความนอบน้อมเอาบุญกุศลจากการสร้างมหาทานแห่งการช่วยชาติอีกด้วย
ฉะนั้นเงินทองบริจาคที่หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกับ “คลังหลวง” ในครานี้ นอกจากจะมีมูลค่ามหาศาลทางด้านวัตถุ ยังทรงคุณค่าเหนือค่าเหนือราคาทางด้านจิตใจเนื่องจากมีหลักธรรมในพระพุทธศาสนาพาก้าวเดิน เหตุการณ์อันทรงค่าเหล่านี้จักเป็นประวัติศาสตร์ที่ภาคภูมิใจยิ่งของชาติไทยอีกครั้งหนึ่งเหมือนเมื่อครั้ง “ เงินถุงแดง” และเงินบริจาคในสมัยรัชกาลที่ ๕ ที่เสียสละช่วยกันจนไถ่บ้านไถ่เมืองไว้ได้
|